หยุดยาว 5 วันที่ผ่านมา หลายๆคนก็คงจะได้หยุดพักผ่อนกันอิ่มหนำสำราญใจกันเลยทีเดียว และก็มีอีกหลายๆคนที่ใช้โอกาสช่วงวันหยุดที่ผ่านมานี้ ไปเที่ยว ไปทำบุญ ไปพักผ่อน ในสถานที่ต่างๆ และผมก็เช่นกันครับ แต่ก็ไม่ได้ไปไหนไกลเลย ยังอยู่ที่โคราชเหมือนเดิม แต่อยากหาที่ที่สงบ รุ่มรื่น และบรรยากาศดีสักแห่ง ไปนั่งเล่น ไปผ่อนคลาย ไปรีสตารทร่างกายให้ตัวเองสักหน่อย เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายในเมือง จึงต้องหาป่าเขาพงไพร สีเขียวจากต้นไม้ ให้ดูแล้วสบายตา ท้องฟ้าแจ่มใส ที่มีสายลมพัดผ่านเย็นสบาย จึกเกิดเป็นการเดินทางเสาะแสวงหาสถานที่และจุดหมายปลายทางขึ้น ซึ่งนั่นก็คือ การไปพิชิต สถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง

และวันนี้ ผมก็จะพาไปชมและสัมผัสกับบรรยากาศของสถานที่แห่งนั้นกัน นั่นก็คือ “ภูกิ่งฟ้า” ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา และที่นี่ก็ยังเป็นที่ตั้งของ สำนักสงฆ์ภูกิ่งฟ้า อีกด้วย ว่าแล้วก็ไปกันเลย

ผมออกเดินทางแต่เช้าพร้อมหลานๆที่ไปด้วยกัน 2 คน มุ่งหน้าไปตามเส้นทาง 304 แล้วเลี้ยวเข้าตรงทางแยกบอกทาง ไปเขื่นมูลบน (หรือตรงยูเทิร์นเลยวัดปอแดง) ขับตรงไปอย่างเดียวจนผ่านโรงเรียนบ้านใหม่พิทยาคม ก็จะเจอกัน 4 แยก แล้วก็เลี้ยวขวา ไปตามถนนคอนกรีด (ถ้าเลี้วซ้ายไป ตลาด อ.ครบุรี หรือถ้าตรงไปเขื่นลำแชะ) ก็จะมีป้ายบอกทางชัดเจน และเส้นทางต่อจากนี้ไป มันก็คือการเริ่มต้นและอดทนอย่างใจเย็นครับ เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายบอกทางเลยks_namotrips_unseenkorat1-1

ks_namotrips_unseenkorat2-1จากป้าย บอกระยะทางไว้ 8 กม. ผมคิดในใจว่า โอ้  จากทางแยกใกล้ๆเอง เส้นทางก็ยังดูปกติดี ทางแค่นี้ สบายๆ สำหรับรถเก๋ง

จากทางที่วิ่งง่ายๆ ก็ปรับระดับความยากขึ้นไปเรื่อยๆครับ รถเล็ก รถเตี้ยบอกเลยว่าหมดสิทธิ์ และสำหรับผม รถเก๋งด้วย เหนื่อยสุดๆครับ หลบแล้วหลบอีก จากทางรถสวนกันได้ ก็เริ่มแคบลงเรื่อยๆ หรือให้รถวิ่งเพียงเลนเดียวks_namotrips_unseenkorat3-1

คิดในใจอยู่ว่า เรามาถูกทางหรือป่าว ทำไมยิ่งเข้าไปยิ่งเป็นป่ามัน ไร่มันชาวบ้านเต็มไปหมด และบางช่วงเดินยังเร็วกว่าขึ้นรถด้วยซ้ำไป แต่พอขับมาได้สักพัก เห็นป้ายนี้ ยังพอได้อุ่นใจกันหน่อยว่ามาถูกทางแล้วล่ะks_namotrips_unseenkorat4-1

ขับต่อไปเรื่อยๆ ทางก็เริ่มแคบลง และก็มีลองทางดินด้วย โอ้ว นี่มันขับแรลลี่กันเลยหรือเนี่ย รู้สึกสงสารรถมากๆ แต่ก็นะมาเกือบจะถึงจุดหมายแล้วks_namotrips_unseenkorat5-1
ระหว่างขับรถไปยังทางล่องดินดังกล่าว ก็พบเจ้าตัวนี้ออกมาต้อนรับกันอยู่ข้างทางเต็มไปหมด โดยไม่กลัวคนเลย ทำเสมือนคุ้นเคยและรู้จักกันมานานเสียอย่างนั้น
ผมก็เลยจอดรถถ่ายรูปดูพฤติกรรมมันซะหน่อย ยามเช้าแสงแดดอ่อนๆ นี่เป็นช่วงเวลาที่มันกำลังออกมาหากินเลยks_namotrips_unseenkorat6-1

แต่ที่ผมพึ่งเคยเห็นก็คือ มันกินดอกไม้ใบหญ้านี่แหล่ะ (สงสัยจะรักสุขภาพจริงๆ)
ks_namotrips_unseenkorat7-1ที่สำคัญ เด็กๆในยุคปัจจุบันเรา รู้จัก แต่ก็ยังมีอีกหลายคนไม่รู้จัก และก็ยังมีอีกหลายๆคนเช่นกัน ที่รู้จักแต่ชื่อ แต่ไม่เคยเห็นตัวจริงเลย นั่นก็คือ “แย้” นั่นเอง และสำหรับตัวนี้ ก็เป็นแย้เพศผู้ หุ่นดีเลยทีเดียว…ถ้าเป็นสมัยเด็กๆนะ ผมคงได้ทำบาปไปแล้ว เห็นแบบนี้แล้วอดใจไม่ไหว

ks_namotrips_unseenkorat8-1

ถ่ายรูปเสร็จ ก็ไปกันต่อ ขับไปเรื่อยๆ มีอะไรดีๆสองข้างทางให้ได้ดูได้ชมเยอะแยะ และก็มาเจอะนี่เลยครับ “ทุ่งหญ้า”กลางขุนเขา

ks_namotrips_unseenkorat9-1สวยๆแบบนี้ หลานๆอยากถ่ายรูปเก็บไว้ ก็จัดไปเลยครับ แต่พอเดินลงไปเท่านั้นแหล่ะ สูงจนแทบมองไม่เห็นหัวเลยks_namotrips_unseenkorat10-1

น้องอยากมีรูปกับเขาบ้าง พี่ก็อุ้มๆ กันหน่อยนะks_namotrips_unseenkorat11-1

นี่ก็คงจะเป็นเรื่องราวสองข้างทาง ที่สวยงามเสมอ และเกิดขึ้นได้ทุกๆที่ ที่เราไป ไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทางที่สำคคัญที่สุดks_namotrips_unseenkorat12-1

เริ่มเข้าใกล้ไปทุกที บรรยากาศก็รุ่มรื่น และเงียบสงบขึ้นเรื่อยๆครับks_namotrips_unseenkorat13-1

และแล้วผมก็มาถึงจนได้ครับ นี่คงจะเป็นรถเก๋งคันแรกเลยด้วยซ้ำไป ที่มาจนถึงที่นี่ได้ เพราะเส้นทางแบบนี้ เหมาะกับรถกระบะหรือรถโฟร์วิลยกสูงๆกัน แต่ก็นั่นแหล่ะครับ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่แค่เอื้อม

แต่ผมจะบอกว่า การเดินทางด้วยรถเก๋งของผมนั้นใช้เวลาพอสมควรครับ กับระยะทางแค่ 8 กม. ผมใช้เวลาไปกว่า 45 นาที ฟังไม่ผิดครับ 45 นาที ลองจินตนาการสภาพถนนหนทางได้เลย ว่าโหดขนาดไหน เอาจริงๆแล้วไม่เหมาะกับรถเก๋งเลย แต่ด้วยความอยากรู้อยากลอง ก็เลยดั้นด้นมาจนถึงครับ และครั้งต่อไปผมคงต้องมารถกระบะ หรือ มอไซค์ จะสะดวกกว่าks_namotrips_unseenkorat14-1

มาถึงแล้วก็แวะเข้าไปที่ศาลาการเปรียญก่อนเลย แวะกราบพระขอพรกันก่อน ว่าลูกหลานได้มาเยือนมาเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้ ผู้คนได้รู้จักกันมากขึ้นks_namotrips_unseenkorat15-1

จากนั้นเราก็จะเดินไปต่อกันที่หน้าผาครับ ซึ่งถือว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม เป็นไฮไลท์ของ ภูกิ่งฟ้าเลยก็ว่าได้ks_namotrips_unseenkorat16-1

นี่ครับ แลนด์มาร์คของ ภูกิ่งฟ้า หรือ สำนักสงฆ์ภูกิ่งฟ้า ที่มีรูปปั่นพระเดินธุดงยืนสง่า เหนือภูเขาสูงks_namotrips_unseenkorat17-1
***ที่นี่ถือเป็นจุดชมวิวใหม่ของโคราชเลยก็ว่าได้ ซึ่งมีสภาพเป็นภูเขาหินทรายสูงชัน อยู่บริเวณเขตรอยต่อระหว่างพื้นที่ ต.บ้านใหม่กับตำบลโคกกระชาย อ.ครบุรี ชาวบ้านวัดความสูงจากผิวพื้นดินขึ้นมายังยอดผาได้ประมาณ 300 เมตร โดยหากเราขึ้นไปอยู่บนยอดภูผาจะมองลงมาเห็นพื้นที่บริเวณด้านทิศใต้ของทั้ง ตำบลบ้านใหม่และตำบลโคกกระชายอย่างชัดเจน ซึ่งก็จะมีทั้งภูเขาที่อยู่ภายในเขตป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน เขื่อนลำแชะ และอ่างเก็บน้ำห้วยทับครัว ซึ่งเป็นต้นน้ำสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา และลำน้ำมูล โดยบนภูกิ่งฟ้าจะเป็นจุดที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินได้อย่าง ชัดเจน มีความสวยงามอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาวนั้นจะมีทะเลหมอกเกิดขึ้นบนยอดภู มีความสวยงามไม่แพ้กับจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งอื่นๆของประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการสัมผัสกับ ความสวยงามของวิวทิวทัศน์และการรับโอโซนบริสุทธิ์ (***ขอขอบคุณข้อมูลจาก สถ.ชวนเที่ยวks_namotrips_unseenkorat18-1)

หลานๆพากันไปไหว้พระขอพรกันหน่อยks_namotrips_unseenkorat19-1

ks_namotrips_unseenkorat20-1อยู่บนนี้อากาศดีเลยทีเดียวครับ รู้สึกเงียบสงบ และสดชื่นมากๆ หากมีเปลมาผูกนอนด้วยนี่หลับสบายกันเลยทีเดียว

สำหรับการเดินทางขึ้นมายังสำนักสงฆ์ภูกิ่งฟ้าแห่งนี้ สามารถมาได้ 2 เส้นทางครับ ซึ่งก็คือ
1.ทางรถยนต์ ขับรถยนต์มาถึงเลย แต่ก็จะมีอุปสรรค์เรื่องเส้นทางอยู่บ้างks_namotrips_unseenkorat21-1

2. ขึ้นทางบันได หากต้องการขึ้นทางบันได ก็ต้องขับรถตรงมาจาก 4 แยกที่ผมได้พูดไปเมื่อตอนต้นครับ และขับตรงมาเรื่อยๆ จนผ่านเขื่อนลำแชะ ไปจนถึงบ้านหนองโบสถ์ ก็จะมองเห็นธงจากทางด้านล่าง และก็จะมีบันไดทางขึ้นครับ

ซึ่งเมื่อไม่นานนี่เอง ทางพระร่วมกับชาวบ้านได้ทำบันไดทางขึ้นกว่า 1,000 ขั้น เพื่อความสะดวกสำหรับกิจของสงฆ์ และใช้เป็นทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะมาพิชิตวิวบนยอดเขานี้ks_namotrips_unseenkorat22-1

ks_namotrips_unseenkorat23-1  สำหรับสำนักสงฆ์ภูกิ่งฟ้านั้น ตั้งมาแล้วกว่า 8 ปีครับ จากการสอบถามพระลูกวัด ก็มีหลายคนที่รู้จักบ้างไม่รู้จักบ้าง และอีกหลายๆคนก็ยังไม่รู้จัก แต่ก็มีญาติโยมที่แวะมาทำบุญ ทอดผ้าป้ากันอยู่บ่อยๆครับ สำหรับใครที่อยากทำบุญ อยากบำรุงพระพุทธศาสนา ก็ลองแวะเวียนกันมาได้ครับ สำหรับพรรษานี้ ปี 2559 มีพระจำพรรษาอยู่ที่นี่ 2 รูป และแม่ชี 1 คน ที่นี่ ใช้ไฟฟ้าแบบโซล่าเซลล์ และน้ำก็จะต้องมีรถไปเอามาในแต่ละวัน หรือสองวันครั้งครับ ส่วนน้ำดื่มก็แล้วแต่ญาติโยมจะทำบุญมา แต่สำหรับผม ที่นี่ยังขาดแคลนเรื่องน้ำดื่มครับ หากใครอยากทำบุญน้ำดื่ม แนะนำที่นี่เลยครับ ได้ไว้ใช้ตามวัตถุประสงค์แน่นอน เพราะญาติโยมใครไปใครมา หรือนักท่องเที่ยวขึ้นมากันเหนื่อยๆ ก็จะได้มีน้ำไว้ให้ดื่มให้กินกัน

ks_namotrips_unseenkorat24-1ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่ราวๆเกือบ 2 ชั่วโมงกว่าๆ เดินเล่น นั่งเล่น ถ่ายรูปไป เพราะมันเป็นเหมือนการมาพักผ่อนทั้งทางกายและทางใจอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรกจริงๆ และยังได้เห็นวิวกว้างกว่า 180 องศากันด้วย ที่เห็นอยู่ในภาพนี้คือ อ่างเก็บน้ำทับครัว นั่นเองครับ

พอสายๆ ขึ้นมาหน่อย แดดก็เริ่มร้อน ก็ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้วครับ กว่าจะถึงปากทางเข้าก็คงต้องใช้เวลาพอสมควร ไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน แวะไว้พระกันก่อนกลับสักหน่อย ไว้โอกาสหน้า จะตั้งใจมาทำบุญและเฝ้ามองพระอาทิตย์ยามเย็นสักวันแน่นอนครับ

25-1
สำหรับใครที่ต้องการจะมาเที่ยว มาทำบุญ มาเยี่ยมชมที่นี่ ก็มาไม่ยากครับ มีป้ายบอกทางชัดเจน อยู่ที่จะเลือกว่าจะใช้เส้นทาง รถ หรือ ทางเท้า ผมมีแผนที่สำหรับการเดินทางมาฝากกันด้วยทั้ง 2 เส้นทางเลย

 

แผนที่และการเดินทาง-ทางรถยนต์ (ถึงจุดหมายเลย)
แผนที่และการเดินทาง-ทางรถยนต์ (ทางเท้าขึ้นบันได)
 

ติดตามเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยวโคราชได้ที่ Facebook
และเรื่องราวต่างๆผ่านทางเว็บไซต์ namotrips.com
หรือช่องทาง Youtube : เที่ยวโคราช เที่ยวเมืองไทย


Comments are closed.

Check Also

รำบวงสรวงย่าโม วันมงคล 23 มีนาคม 2567

สปิริตแรงกล้ารำบวงสรวงย่าโมท่ามกลางสายฝน วันมงคล 23 มีน … …