สำหรับภาวะเศรษฐกิจในช่วงนี้ เรื่องกล้วยๆ ก็ทำให้รวยได้เหมือนกัน…อย่างเกษตรกรกลุ่มนึงที่เลือกทำอาชีพเกษตรมาตั้งแต่บรรพบุรุษจนถึงทุกวันนี้ โดยใช้ชื่อเฟสบุ๊คว่า “สวนสายพินพันธุ์ไม้” ซึ่งได้เน้นการปลูกพืชหลากหลายชนิด โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้าที่ถือเป็นไฮไลท์เด็ดที่สร้างเสียงตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลามจนแทบตัดขายไม่ทัน Credit : สวนสายพินพันธุ์ไม้ (Facebook fanpage) คุณสายพิน แก้วศรี หรือ “เจ้แอว” เจ้าของ สวนสายพินพันธุ์ไม้ ตั้งอยู่ที่เลขที่ 128 หมู่ 2 ต.มาบตะโกเอน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ปลูกกล้วยมานานหลายปีแล้ว ผสมกับการปลูกพืชชนิดอื่นๆ เช่น ลำไยพันธุ์อีดอ ซึ่งปลูกเพื่อการส่งออกโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังปลูกขนุน ทุเรียน และพืชชนิดอื่นๆ มากมาย แต่ “กล้วย” จะเป็นไม้ผลที่เจ๊แอวปลูกคู่กับพืชชนิดอื่นๆ มาตลอด ซึ่งมีทั้งกล้วยไข่ กล้วยน้ำว้า ฯลฯ เพียงแต่เดิมนั้นจะปลูกกล้วยน้ำว้าพันธุ์พื้นเมือง แล้วเพิ่งจะมาเปลี่ยนเป็น “พันธุ์ปากช่อง 50” เมื่อไม่กี่ปีมานี้ บนพื้นที่ 40 ไร่ (ประมาณ 4,000 ต้น) ปกติที่ดินแปลงนี้มีจำนวน 50 ไร่ ซึ่งก็จะทยอยปลูกจนเต็มพื้นที่ ซึ่งในการปลูกนั้นจะทยอยปลูกทีละ 10 ไร่ เพื่อให้สามารถดูแลจัดการได้ทัน Credit : สวนสายพินพันธุ์ไม้ (Facebook fanpage) กล้วยน้ำว้าพันธุ์ปากช่อง 50 เป็นพันธุ์ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (แต่ที่ปลูกนั้นได้คัดแยกหน่อมาจากสวนเดิม) อันเป็นผลงานจากการวิจัยคิดค้นของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตัดขายได้ราคาหวีละ 20 บาท เครือหนึ่งจะได้ 15 หวี ตกเครือละ 300 บาท สำหรับเครือที่ไม่ถึงเกรด จะได้ขายแค่ประมาณ 200 บาท อาทิตย์ไหนตัดขายก็จะได้เงินเป็นหมื่นจนถึงแสน เช่น ปลูกแค่ 5 ไร่ จะได้เงินแสน และถ้าปลูก 10 ไร่ ก็จะได้ถึง 2 แสน ส่วนหนึ่งมาจากการขายหน่อกล้วยอย่างเป็นล่ำเป็นสัน หน่อหนึ่งราคาก็ปาไปแล้ว 50 บาท ขายครั้งหนึ่งได้เงินเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว Credit : สวนสายพินพันธุ์ไม้ (Facebook fanpage) ซึ่งวิธีการปลูกกล้วยก็ไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน อยู่ที่การใส่ปุ๋ย รดน้ำ แต่งใบ แต่งหน่อ เพียงเท่านี้ก็ได้ผลิตผลไปขายแล้ว สำหรับเจ๊แอวจะใช้ปุ๋ยยูเรีย (ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง) สลับกับปุ๋ยเคมีสูตร 15 ใส่ 1 ต้น/กำมือ ทุก 1-2 เดือน ในการปลูกกล้วยน้ำว้า แล้วคอยหมั่นแต่งใบที่แก่จัดให้โล่งอยู่เสมอ เช่นเดียวกับการตัดแต่งหน่อกล้วยที่มักจะเหลือไว้กอละ 3 ต้นเท่านั้น ส่วนการรดน้ำจะขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ Credit : สวนสายพินพันธุ์ไม้ (Facebook fanpage) แม้กล้วยที่ปลูกจะได้ผลผลิตมากมายถึงเพียงนี้ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่ากล้วยจะเป็นพืชผลทางการเกษตรที่มีแนวโน้มจะล้นตลาดเลย เพราะบางวันลูกค้ามาทั่วทั้งในโคราช หลากหลายอำเภอ และจังหวัดใกล้เคียง ทั้งขอนแก่น อุบลฯ และอีกมากมายจากทั่วทุกสารทิศจนเจ๊แอวก็ตัดเตรียมไว้ให้ลูกค้าแทบไม่ทัน เนื่องจากสวนมีขนาดใหญ่ และเปิดมาเป็นเวลายาวนาน เมื่อเกิดการบอกต่อกันแบบปากต่อปากทำให้สวนเป็นที่รู้จักและเกิดความเชื่อถือตามมา แต่อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้สวนของเจ๊แอวมีลูกค้ามากมายขนาดนี้ คงเพราะนอกจากกล้วยแล้ว เจ้แอวยังปลูกพืชผลทางการเกษตรตัวอื่นๆ อีกมากมายมาเป็นเวลานาน จึงเป็นที่รู้จักของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าทั้งใกล้ไกล และอีกวิธีสำคัญที่ทำให้ลูกค้ารับรู้และรู้จักคือ การเปิดเพจเฟสบุ๊ค ที่คอยรายงานความเคลื่อนไหวของสวนตลอดเวลา Credit : สวนสายพินพันธุ์ไม้ (Facebook fanpage) อนาคตเจ๊แอวก็มีแพลนจะขยายพื้นที่ปลูกออกไปอีก จากพื้นที่เดิมประมาณ 90 ไร่ จะปรับขึ้นเป็น 100 ไร่ ในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้าที่จะปลูกเพิ่มอีกเท่าตัว เป้าหมายคือการเพิ่มพื้นที่เกษตรให้ได้ 300-400 ไร่ เพราะทางเกษตรกรมั่นใจว่าเกษตรคืออาหาร ยังไงธุรกิจนี้ก็ไม่มีวันตายเพราะใครๆ ก็รู้จักกล้วย ใครๆ ก็กินกล้วย และผลกำไรที่พ่อค้าแม่ค้าเขาซื้อไปขายต่อเขาก็ยังได้อยู่ เช่น ซื้อไปหวีละ 20 บาท เอาไปบ่มให้สุขก็ขายได้แล้วหวีละ 40 บาท อีกทั้งยังนำไปแปรรูปเพิ่มมูลค่าได้อีกด้วย Credit : สวนสายพินพันธุ์ไม้ (Facebook fanpage) เพราะฉะนั้น หากใครตั้งใจจะทำการเกษตรอย่างจริงจัง คุณสายพิน แก้วศรี (เจ้แอว) และสามีคือ คุณสมบัติ แก้วศรี แนะนำว่า ต้องศึกษาและลงมือทำเองอย่างจริงจังและสม่ำเสมอ หนักแค่ไหนก็ต้องสู้ จะคอยชี้นิ้วสั่งอย่างเดียวไม่ได้ หากใครสนใจจะปลูกกล้วยน้ำว้าก็สามารถเข้ามาศึกษาดูงานอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ ว่าการปลูกกล้วยต้องดูแลอย่างไร ปัญหาในการปลูกอยู่ที่ไหน และสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือขายให้กับใคร แน่นอนว่าที่สวนสายพินพันธุ์ไม้ เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ให้ผู้สนใจไปศึกษาดูงานกันได้อย่างเต็มที่ โดยต่อสายตรงถึง “เจ้แอว มาบตะโกเอน” ผ่านเบอร์โทร. 089-9485934 ได้ทันที แหล่งที่มา : เกษตรก้าวไกล ภาพประกอบ : สวนสายพินพันธุ์ไม้ (Facebook fanpage)
