ผู้ว่าฯ โคราช นำคณะศึกษาดูงานแผนพัฒนาท่าเรือบก ลาดกระบัง หวังเชื่อมโยงผู้ประกอบการและสายเดินเรือร่วมพัฒนาท่าเรือบกโคราช ตั้งงบ ๓๘ ล้านบาท ร่าง TOR เสนอรัฐบาลก่อนปี ๖๓

ณ สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง ICD ลาดกระบัง กรุงเทพฯ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฎ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา นายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา นายจรูญ จงไกรจักร ผู้แทนขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ดร.สฤษดิ์ ติยะวงศ์สุวรรณ ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และสื่อมวลชน ร่วมหารือกับผู้ประกอบการสายการเดินเรือและศึกษาดูงานการพัฒนาท่าเรือบก เพื่อเป็นการนำมาปรับรูปแบบท่าเรือบก ให้เข้ากับบริบทของโคราช และหวังเชิญชวนผู้ประกอบการสายเดินเรือร่วมลงทุนพัฒนา การบริการบริหารพื้นที่ท่าเรือบก จังหวัดนครราชสีมา โดยมีนายนฤชา เชาวน์ดี หัวหน้ากองปฏิบัติการไอซีดี ลาดกระบัง ให้การต้อนรับ พร้อมกับผู้ประกอบการ ๖ บริษัท ประกอบด้วย บริษัท สยามซอร์ไซด์ เซอร์วิส จำกัด (SSS), บริษัท อิสเทิร์นซี แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด (ESCO), บริษัท เอเวอร์กรีนคอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล (ประเทศไทย) จำกัด (ECTT), บริษัท ทิฟฟ่า ไอซีดี จำกัด (TIFFA), บริษัท ไทยฮันจิน โลจิสติกส์ จำกัด (THL) และบริษัท เอ็น.วาย.เค.ดิสทริบิวชั่น เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด (NICD) รวมถึงบริษัทสายเดินเรือ โอเชี่ยน เน็ตเวิร์ค เอ็กซ์เพรส เข้าร่วมพูดคุย

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า วันนี้นำคณะจากทั้งภาคการศึกษา ภาคเอกชน และภาครัฐ เข้ามาศึกษาดูงานที่ ICD ลาดกระบังซึ่งเป็น ICD ที่ประสบผลสำเร็จมาแล้วกว่า 24 ปี ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่เรานำไปใช้ในเรื่องการจัดสร้าง Dry Port หรือท่าเรือบก ที่จังหวัดนครราชสีมา ท่าเรือบกจังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเขียนข้อเสนอ หรือ TOR เพื่อหาผู้ที่สนใจมาร่วมลงทุนกับทางจังหวัด ซึ่งจะต้องหางบประมาณมาจ้างให้มีบริษัทมาเขียน TOR ให้เรา เมื่อเขียนเสร็จเราต้องเสนอไปที่กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคมให้ความเห็นชอบในข้อเสนอ ซึ่งเราจะใช้ข้อเสนอตรงนี้ในการหาผู้ร่วมทุน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ และเราก็ได้มาศึกษาดูงานที่ ICD ลาดกระบัง

จากการพูดคุยกับบริษัทผู้ประกอบการที่ ICD ลาดกระบัง ทั้ง 6 บริษัท และได้พบกับสายเรือด้วย ถือว่าเป็นโอกาสอันดี ทั้งนี้ทางผู้ประกอบการได้ให้คำแนะนำที่สำคัญหลายๆ เรื่อง โดยเรื่องสำคัญหลักๆ คือ สินค้าที่จะมาใช้ที่ท่าเรือบกขนผ่านตู้คอนเทนเนอร์ โดยใช้ระบบทางราง หรือระบบขนส่งทางรถยนต์ แต่หลักสำคัญต้องดูว่าอะไรถูกที่สุด หากเราสามารถขนตู้คอนเทนเนอร์ ไปท่าเรือโดยทางรถไฟ ถูกกว่ารถยนต์ ผู้ประกอบการก็จะต้องเลือกไปที่รถไฟแน่นอน แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการให้คำแนะนำเราคือ ตู้คอนเทนเนอร์ขาเข้าควรมีจำนวนมาก ฉะนั้นหากเราสามารถรวบรวมตู้คอนเทนเนอร์ที่จะไปจังหวัดนครราชสีมาให้เดินทางโดยรถไฟ และเมื่อเดินทางไปถึงนครราชสีมาและเปลี่ยนเป็นตู้ที่จะรับสินค้าจากทางโคราช เพื่อจะมาส่งทางรถไฟ และเข้ามาที่ท่าเรือ ก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายตรงนี้ถูกลง  นายวิเชียร กล่าว

นายวิเชียร กล่าวอีกว่า “จากเดิมแล้วข้อศึกษาของจังหวัดนครราชสีมา ตั้งสมมุติฐานว่าตู้คอนเทนเนอร์ทุกอย่าง จะเป็นตู้คอนเทนเนอร์เปล่าจากบริษัท และขึ้นทางรถไฟเพื่อบรรจุสินค้า และคิดค่าใช้จ่ายเมื่อบรรจุแล้วส่งมาที่ท่าเรือ แต่วันนี้ผู้ประกอบการให้คำแนะนำ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ ควรมีการประสานกับบริษัทที่นำเข้าให้ใส่ตู้คอนเทนเนอร์ที่เราจะนำไปรับสินค้าที่โคราช ซึ่งเราก็จะมีรายได้เพิ่มสองทาง จะทำให้การจัดทำท่าเรือมีรายได้เพิ่มอีกส่วนหนึ่ง

วันนี้ทางเรายังได้มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมชมระบบการทำงานของบริษัท NYK เห็นระบบของการรับสินค้า รับตู้คอนเทนเนอร์ ระบบการจัดเก็บ หรือระบบการปล่อยสินค้า ซึ่งผมคิดว่าจะเป็นประโยชน์ที่เราจะนำไปใช้ในการวางแผนสำหรับการหาผู้ร่วมทุน ท่าเรือบกที่โคราชต่อไป”

นายวิเชียร กล่าวอีกว่า “เนื่องจากเอกชนเป็นระบบธุรกิจ และต้องการการแข่งขันอยู่แล้ว ฉะนั้นหากที่จังหวัดมีท่าเรือบกเกิดขึ้น และมีเอกชนรายใดรายหนึ่งไป เขาเห็นว่าสามารถทำกำไรได้ ก็คิดว่ารายอื่นก็จะตามกันไป เพราะเป็นธุรกิจที่พวกเขาจะแข่งขันกันอยู่แล้ว ซึ่งภาคเอกชนอาจจะต้องการตัวเลขที่ชัดเจน เมื่อมีการทำ TOR (Term of Reference) เสร็จ เราก็จะนำ TOR นี้มาเสนอ เผื่อว่าผู้ประกอบการเหล่านี้สนใจร่วมกับเรา”

“สำหรับการจัดทำ TOR ขณะนี้รองบประมาณจะกระทรวงคมนาคม ถ้าได้รับงบประมาณในปี 2563 ก็จะใช้เวลาศึกษาประมาณ 1 ปี เพราะฉะนั้นช่วงสิ้นปี 2563 จะต้องนำ TOR ส่งกระทรวงคมนาคม และกระทรวงมหาดไทยให้ความเห็นชอบ ใช้เวลาประมาณครึ่งปี และเมื่อมีมติเห็นชอบแล้ว เราถึงจะประกาศหาตัวผู้ร่วมทุน ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 2 ปี จึงจะสามารถเริ่มสร้างได้ โดยจะสอดรับกับแผนดำเนินการรถไฟความเร็วสูง ทางการศึกษาวิจัยเห็นว่า เราควรจะเปิดท่าเรือบกที่นครราชสีมาในปี 2568 โดยคาดการณ์ว่าในปี 2565 เราอาจจะเริ่มลงมือสร้าง ส่วนงบประมาณที่ขอไป ขอไว้อยู่ที่ 38 ล้าน และต้องเร่งให้ได้ในปี 2563 หากช้ากว่านี้ ก็จะทำให้ช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้” ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าว

ทั้งนี้ จากการศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาท่าเรือบกจังหวัดนครราชสีมา จะเป็นศูนย์ท่าเรือบกขนาดกลาง มีปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ 200,000 ตู้ต่อปีขึ้นไป บนเนื้อที่ 1,800 ไร่ โดยมีค่าดำเนินการดังนี้ ค่าชดเชยที่ดิน/สิ่งปลูกสร้าง 3,140 ล้านบาท, ค่าปรับสภาพดิน 740 ล้านบาท, ค่าออกแบบรายละเอียด 70 ล้านบาท,ค่าก่อสร้าง 2,160 ล้านบาท, ค่าอุปกรณ์ 800 ล้านบาท, ค่าใช้จ่ายตามมาตรการสิ่งแวดล้อม 20 ล้านบาท และค่าควบคุม  งานก่อสร้าง 70 ล้านบาท รวม 7,000 ล้านบาท (ต้นทุนราคาปี 2561) ค่าดำเนินการและบำรุงรักษา ต่อปี 62 ล้านบาท โดยมีเวลาออกแบบก่อสร้างและติดตั้งระบบ ตั้งแต่ปี 2565-2567 ก่อนจะเปิดใช้ได้จริงปี 2568

 


แหล่งข้อมูล : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา


Comments are closed.

Check Also

แกรนด์โอเพ็นนิ่ง “โคเอ็น” แบรนด์ดังร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นปิ้งย่าง-ชาบู-ซูชิ ผงาดเจาะตลาดอีสาน ประเดิมโคราชแห่งแรก!

ดีเดย์ แกรนด์โอเพ็นนิ่งสุดยิ่งใหญ่ KOUEN PREMIUM BUFFET … …