รฟท.เปิดประชุมการมีส่วนร่วมครั้งแรก หลัง “กระทรวงคมนาคม” สั่งปรับแบบก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระและอำเภอสีคิ้ว จากข้อเรียกร้องของ “จังหวัดฯ-หอการค้า-เทศบาล” และชาวโคราชช่วงผ่านตัวเมือง หวั่นเป็นเมืองอกแตก! สัญจรไม่ได้ ล่าสุด รฟท.เผยแบบทางรถไฟทางคู่ยกระดับ 8 เมตร(ระดับ2) ระยะทาง 5.1 กม.ช่วงตัวเมืองต้องทุบสะพานสีมาธานีทิ้ง เพิ่มงบอีก 3,000 ล้านโครงการล่าช้าอีก 1 ปี เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2561 ที่ห้องอรพิม โรงแรมสีมาธานี จ.นครราชสีมา ได้มีการประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่1 (ปฐมนิเทศโครงการ) งานบริการที่ปรึกษาเพื่อปรับแบบรายละเอียดบริเวณอำเภอสีคิ้วและตัวเมืองนครราชสีมาในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่2 คลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ โดยมี นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฯ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “ทางจังหวัดฯต้องขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้ร่วมกับชาวจังหวัดนครราชสีมา ในการรับฟังข้อคิดเห็น ในกรณีที่เรามีข้อเรียกร้องในการยกระดับรถไฟทางคู่ บริเวณ อำเภอสีคิ้ว และบริเวณตัวเมืองจังหวัดนครราชสีมา ถึงแม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบในภาพรวมของโครงการ กระทบในเรื่องงบประมาณที่เพิ่มขึ้น อีกประมาณ 3,000 ล้านบาท ในการยกระดับ 2 จุด” “และยิ่งกว่านั้นคือกระทบระยะเวลาในการดำเนินการก่อสร้างยืดไปอีก 1 ปี ทางจังหวัดนครราชสีมา ทุกภาคส่วนต้องขออภัยการรถไฟแห่งประเทศไทย และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นชาวโคราชมีความพึงพอใจและขอบคุณที่กระทรวงคมนาคมได้รับฟังข้อคิดเห็นของเรา” “ส่วนเรื่องการจัดระบบการจราจร ในจังหวัดนครราชสีมา คาดการณ์ว่าภายในปี 2565 การจรจรในตัวเมืองจังหวัดนครราชสีมา จะเปลี่ยนคนไม่เคยมาระหว่าง 5 ปี ตั้งแต่วันนี้ไป 5 ปีข้างหน้าเรียกว่าจะจำโคราชไม่ได้” นายวิเชียร กล่าวอีกว่า “สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ซึ่งช่วงแรกก็มีจุดปลายทางอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา และมีการปรับแบบการก่อสร้างต่างไปจากที่ศึกษาไว้เดิม ดังนั้นในช่วงสัญญาที่ 2 ที่นํามาจัดประชุมหารือกันในวันนี้เนื่องจากมีความจําเป็นต้องปรับแก้ไขแบบการก่อสร้างโครงการทั้ง ระบบรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูงให้สอดคล้องกัน และเกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนา โครงการระบบขนส่งทางรางของประเทศ รวมทั้งประชาชนผู้ใช้บริการ” “ดังนั้นการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงมีความจําเป็นที่จะต้องแก้ไขแบบใน 2 จุดหลัก คือ ที่อําเภอสีคิ้ว และตัวเมือง นครราชสีมา ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อเส้นทางการคมนาคม และความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ในทั้งสองพื้นที่ที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการที่จะได้ รับทราบข้อมูลโครงการ และแผนการดําเนินโครงการ แนวคิดเบื้องต้นในการออกแบบปรับปรุง โครงการ รวมถึงได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะที่จะช่วยให้การพัฒนา เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการของทุกภาคส่วนยิ่งขึ้น” ผู้ว่าฯวิเชียร กล่าว ด้านนายชัชวาล วงศ์จร ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “สำหรับระยะทางรถไฟทางคู่ยกระดับ 5.1 กม.ที่ทางโคราชยื่นขอกับรัฐบาล โดยเฉพาะในจุดสำคัญๆ เราได้มีทางลอดตามที่เราต้องการ ถือว่าจะช่วยในเรื่องเศรษฐกิจของจังหวัดนครราชสีมาให้เกิดความคล่องตัว และมีพื้นที่ขยับขยายทางคมนาคมมากขึ้น” “สำหรับพื้นที่ก็เป็นไปตามที่ร้องขอต่อ ครม. เช่นทางลอดเราก็ขอให้ได้ในระดับที่เราต้องการ อย่างในจุดของภูเขาลาด เราขอให้เป็นจุดสัญจรของรถเล็กที่สามารถลอดได้ เพื่อไม่ให้รถเล็กเกิดปัญหาในการเดินทาง ส่วนบริเวณหน้าค่ายช่วงจวนผู้ว่าฯ ตามที่ได้บอกมาคือจะมีการยกระดับ 3 เมตร 50 แต่เนื่องจากความสูงไม่เพียงพอที่จะขนยุทโธปกรณ์ของกองทัพฯ เพราะฉะนั้นความสูงตรงนั้นจะเป็นความสูงที่ 5 เมตร ซึ่งก็จะทำให้การสัญจรในค่ายเป็นไปด้วยดี” “ผลดีจากรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ จะมีผลดีกับบ้านเราแน่นอน แต่เรายังไม่สามารถย้ายสถานีหัวรถไฟเก่าที่ตั้งอยู่ปัจจุบันได้ ก็ต้องอยู่บริเวณหน้าโรงเรียนมารีย์วิทยา แต่จะถูกยกระดับจะมีพื้นดินชั้น 2 และ ชั้น 3 โดยรถไฟทางคู่จะอยู่ชั้น 2 รถไฟความเร็วสูงจะอยู่ชั้น 3 เพราะฉะนั้นตำแหน่งตรงนี้ อนาคตก็จะเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นใหม่ เป็นเหมือนศูนย์การค้าย่อยๆ เรื่องขนส่งมวลชนที่จะตามมา และต้องประสานกับขนส่งมวลชนเพื่อให้เคลื่อนคนได้สะดวกสบาย พอลงจากสถานีรถไฟก็ไปสถานีขนส่งได้เลย” นายชัชวาล กล่าว
