เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 มิถุนายน ที่ศูนย์ปฏิบัติการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา พ.ต.อ.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อม พ.ต.ท.โกสินทร์ สะอาดวงศ์ สารวัตรจราจร (สว.จร) และ ร.ต.อ.ชัยพล คงขุนทด รอง สว.จร. ร่วมแถลงข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “ ผมสั้น อิ้นดี้ ตั้งโอ๋ ” ได้แชร์คลิปในโลกโซเชียล ความยาว 6.31 นาที ลงในกลุ่มเพจต่างๆ ระบุไม่พอใจการปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจรบริเวณใต้สะพานลอยคนข้าม หน้าโรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา ริมถนนมิตรภาพ หนองคาย ขณะนี้มีจำนวนเข้าชมกว่า 2 ล้านครั้ง และยอดแชร์กว่า 30,244 ครั้ง รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นนับหมื่นข้อความ ทั้งให้กำลังใจผู้ที่แชร์พร้อมกล่าวโจมตีตำรวจและมีกลุ่มที่ออกชี้แจงโต้ตอบการกระทำดังกล่าว เนื้อหาของโพสต์ดังกล่าว ผู้ที่แชร์ไม่พอใจ เนื่องจากถูกตั้งข้อกล่าวหาไม่มีพกพาใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์และถูกตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น ทีทีเอ็กซ์ สีส้ม เลขทะเบียน 1 กค 738 ศรีสะเกษ จึงพูดในระหว่างเดินเท้าขึ้นสะพานลอยคนข้ามว่า “ ตำรวจโคราชบางส่วน คือมันสิ้นเดือนไง หากินบนหลังคนนี่ถนัดจริงๆเลย ตำรวจไทยเนี่ย “ , “ ตำรวจควรเห็นใจประชาชน “ , “ ค่าปรับไม่มีใบขับขี่ 200 บาท เงินแค่นี้ มึงให้กูไปเสียค่าปรับที่โรงพัก ก็ได้ป่ะ กูขอระบายหน่อยเถอะ คือแบบเดินมาไกลมาก เพื่อที่จะหาตู้กดเงิน แล้วก็ไม่ให้เอารถเรามา ทั้งๆ ที่เป็นรถของเรา อะไรเนี่ย งี่เง่ามากเลย ขอให้ครอบครัวมึงเจริญ มีกิน มีใช้ทั้งปีก็แล้วกัน หากินได้ง่ายมาก สิ้นเดือนมาต้องทำยอดให้นายไง ไม่ได้กล่าวหานะคะ แต่คุณไม่เห็นใจประชาชน คุณมันบ้าค่ะ ตำรวจไทย คุณเก่งแต่เรื่องแบบนี้ แต่เรื่องที่จะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองคุณไม่ทำ” , “ เอาสิ ไม่มีเงินจ้างมึง มึงไม่ทำคดีให้ ทนไหวแล้วนะตำรวจไทย ” ,” ฉันพูดถูกนะ ว่าคุณไม่เห็นใจประชาชน ” ,” มิหน้าล่ะตำรวจไทย คนถึงได้ฆ่ากันเกลื่อนกลาดขนาดนี้ ฆ่าแล้วไง กูฆ่าตำรวจจะผิดไหมตอนนี้ กูก็ไม่ผิดหรอก กูติดคุกปีเดียว ก็ออกมาฆ่ามึงต่อได้แล้ว ไอ้เหี้ย ” ,” แล้วไงฆ่ากัน ฆ่าก็ได้ออกมาเหมือนเดิม ” , “ เป็นตำรวจที่ดูอยู่ ก็ช่วยตอบด้วย ” ,” เพราะถามแล้วก็ไม่ยอมตอบ เอาผ้าปิดหน้าปิดตา เหมือนโจร ” , “ ตนขอร้อง จะไปจ่ายที่โรงพัก เนื่องจากไม่มีเงินตอนนี้ แต่ไม่ได้ ทำอย่างไรก็ได้ต้องหาเงินมาจ่ายค่าปรับให้ได้ ” และ “ เออ แม่นอยู่ มันหาเงินให้เมียน้อยมัน ” พ.ต.อ.ปฏิยุทธเปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบคลิปพร้อมเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาสอบถาม พบเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา การพูดอ้างระบายความในใจได้ส่งผลกระทบด้านลบทั้งชื่อเสียงและความเชื่อมั่น ซึ่งจะต้องดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพื่อป้องกันพฤติกรรมลอกเลียนแบบและกอบกู้ศักดิ์ศรี ในระหว่างที่รวบรวมพยานหลักฐาน ตนต้องการทราบพฤติกรรมของหญิงสาวเจ้าของคลิป เบื้องต้นมีภูมิลำเนาพักอาศัยอยู่ที่ อ.ราศีไศล จ.ศรีสะเกษ ผู้ที่โพสต์มีเจตนาอะไร ขอให้เจ้าของคลิป ติดต่อมาพบด่วน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้น หากพูดคุยกันด้วยความชื่นมื่น ไม่จำเป็นต้องแจ้งความดำเนินคดี อาจเป็นเพียงปรับทัศนคติ สร้างความเข้าใจให้ถูกต้อง ด้าน ร.ต.อ.ชัยพล รองสารวัตรจราจร ฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ กล่าวเพิ่มว่า การกล่าวหาทำไมไม่ออกใบสั่งให้ไม่เป็นความจริง ผลการกวดขันวินัยจราจร พบการกระทำผิดกฎหมายจราจรทางบก จึงออกใบสั่งจำนวน 47 ราย แยกเป็นเรียกเก็บใบขับขี่ 24 ราย ,อายัดทะเบียน 23 ราย และว่าตักเตือนให้ปรับพฤติกรรม 26 ราย ดังนั้นจึงไม่มีเหตุจำเป็นที่จะปฏิเสธการออกใบสั่งให้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจ ไม่มีการปฏิเสธออกใบสั่งหรือมีหญิงสาวลักษณะในโลกโซเชียลพูดในลักษณะที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ ผมสั้น อิ้นดี้ ตั้งโอ๋ ” ซึ่งเป็นหญิงสาวที่ปรากฏตัวในคลิปดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความว่า “ขอขอบคุณทุกๆ ฝ่ายที่ให้คำตอบและขอโทษทุกๆ ฝ่าย ที่ใช้คำพูดแบบขาดสติ อยากให้เอาเป็นความรู้นะค่ะ โดยถ่ายภาพคลิปความยาว 1.35 น. เมื่อเวลา 09.36 น. วันที่ 4 มิ.ย. มีเนื้อหาว่า “ คลิปนี้ทำขึ้นเพราะได้รับฟังคำตอบจากหลายๆ ฝ่าย โอ๋ก็ได้รับคำตอบอย่างกระจ่างแจ้งแล้วว่า เพราะอะไร เพราะเหตุใด แล้วโอ๋ ก็ต้องออกมาขอโทษด้วย ที่ใช้คำพูดที่ไม่ดี ตอนนั้นเราเกิดโมโห อาจจะทำให้ขาดสติ แล้วพูดคำหยาบออกไปและยังเป็นการกล่าวหานู่นนี่นั่น จุดประสงค์ที่แท้จริงของโอ๋ คือ ต้องการคำตอบ แล้วตอนนี้ ทุกฝ่ายและทุกคนได้มาตอบคำถามโอ๋แล้ว ถือเป็นประโยชน์ และเป็นความรู้สำหรับโอ๋นะคะ แล้วต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีในการใช้อารมณ์ ในการพูด ที่ขาดสติ รวมทั้งได้พูดคำหยาบออกไป อาจทำให้เยาวชนเลียนแบบได้ ก็อยากฝากบอกเตือนทุกคนไว้ว่า จะทำอะไรก็ขอให้มีสติ โอ๋ไม่อยากให้นำพฤติกรรมของโอ๋เป็นตัวอย่าง กรณีนี้ต้องฝากขอโทษไปยังทุกฝ่ายด้วยนะคะ ขอให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจด้วย และขอให้เป็นความรู้แก่ทุกฝ่ายด้วย ว่าเป็นเพราะเหตุใด” แหล่งข้อมูล : มติชนออนไลน์
