เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 พฤษภาคม ที่ห้องประชุมสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมา นายธนพล จันทรนิมิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมนายวีรศักดิ์ ศรีโสภา ท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมา ผู้แทนศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านชีวมวล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) นครราชสีมา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน 29 แห่ง ที่นำขยะไปกำจัดที่ศูนย์ขยะมูลฝอยที่ 3 เทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา และผู้แทนเทศบาลเมือง (ทม.) ปักธงชัย อ.ปักธงชัย ทม.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว เทศบาลตำบล (ทต.) ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด ซึ่งเป็น อปท. ที่มีระบบจัดการขยะด้วยวิธีการเชิงกลชีวภาพ (SUT – MBT) เพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงขยะ (RDF) และปุ๋ยอินทรีย์ ร่วมประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของ อปท. ที่ได้รับผลกระทบจากกรณี ทน. นครราชสีมา จะหยุดรับกำจัดขยะจาก อปท. 29 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ เนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเสียและกลิ่นรบกวนจากปริมาณขยะ 4.4 แสนตัน ซึ่งเต็มพื้นที่ใช้งาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศในการประชุมค่อนข้างเคร่งเครียด เนื่องจากแนวทางแก้ไขปัญหาระยะสั้นและยาวยังติดขัดข้อกฎหมาย รวมทั้ง 4 อปท. ที่มีระบบกำจัดขยะด้วยวิธีกลชีวภาพ อ้างระบบไม่ได้ออกแบบให้กำจัดขยะเกินปริมาณที่กำหนดและเกรงชาวบ้านที่อยู่ในเส้นทางขนขยะและมีบ้านพักในละแวกบ่อขยะอาจได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้บ่อขยะของ ทต.จอหอ อ.เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับเพิ่มเติม แต่เป็นวิธีกำจัดไม่ถูกหลักวิชาการและอยู่ในระหว่างปิดปรับปรุง จึงต้องจัดสรรใหม่ เพื่อให้ปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทั้ง 29 อปท. เฉลี่ย 160 ตัน ต่อวันสามารถกำจัดได้ถูกหลักวิชาการ นายธนพล ฯ ผวจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า บทสรุปการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเป็นไปตามนโยบายของนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ที่กำหนดไว้ โดยให้ ทต.ไชยมงคล ทต.เมืองใหม่โคกกรวด อบต.หนองจะบก อ.เมือง ทต.ด่านเกวียน อบต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย และ อบต.พระพุทธ อ.เฉลิมพระเกียรติ นำไปกำจัดที่บ่อขยะ ทม.เมืองปัก อ.ปักธงชัย รวมปริมาณ 29.5 ตัน ต่อวัน ทต.บ้านโพธิ์ อบต.มะเริง อ.เมือง ทต.จักราช อ.จักราช และ ทต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย นำไปกำจัดที่บ่อขยะ ทต.แชะ อ.ครบุรี รวมปริมาณ 14.9 ตัน ต่อวัน ทต.พุดซา อบต.สีมุม อบต.หมื่นไวย อ.เมือง และทต.พันดุง อ.ขามทะเลสอ นำไปกำจัดที่บ่อขยะ ทต.ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด รวมปริมาณ 16.4 ตัน ต่อวัน ทต.สุรนารี อ.เมือง นำไปกำจัดที่ มทส. รวม 15 ตัน ต่อวัน ทต.ปรุใหญ่ ทต.บ้านใหม่ ทต.ตลาด ทต.โคกสูง อบต.บ้านเกาะ อบต.หนองกระทุ่ม อบต.หนองระเวียง อบต.จอหอ อบต.พะเนา อ.เมือง อบต.จันอัด อบต.โตนด อบต.บิง อ.โนนสูง และ อบต.หนองงูเหลือม อ.เฉลิมพระเกียรติ นำไปกำจัดที่บ่อขยะ ทน. ฯ รวมปริมาณ 78.9 ตัน ต่อวัน อย่างไรก็ตามขอขอบคุณ ทน. ฯ ที่ยังช่วยรับกำจัดขยะในปริมาณพอสมควร ทำให้ปัญหาสามารถคลี่คลายได้ในระดับหนึ่ง นายบุญเหลือ เจริญวัฒน์ รองนายก ทน.นครราชสีมา กล่าวถึงเหตุผลที่ต้องปิดรับกำจัดขยะว่า ปริมาณขยะเฉลี่ย 420 ตัน ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ซึ่งมีทั้งหมด 34 อปท. นำมากำจัดที่ศูนย์ ฯ แต่สามารถกำจัดขยะได้ไม่เกิน 230 ตัน ต่อวัน จึงมีขยะตกค้างนานร่วม 7 ปี กว่า 4 แสนตัน จนเต็มบ่อที่ก่อดินสูงกว่าพื้นร่วม 10 เมตร ทำให้มีผลกระทบต่อชาวบ้านที่มีบ้านพักและที่ทำกินในรัศมี 2 กิโลเมตร ทน. ฯ มิได้นิ่งเฉย ได้ฉีดพ่นน้ำยาชีวภาพและน้ำส้มควันไม้ทุกวันๆละ 3 รอบเวลา เพื่อบรรเทาปัญหากลิ่นและน้ำเสีย แนวทางป้องกันความเสี่ยงทั้งเหตุเพลิงไหม้และด้านสิ่งแวดล้อม จึงขอปิดศูนย์ ฯ ชั่วคราว เพื่อปรับปรุงฟื้นฟูบ่อ รวมทั้งรอกองทัพบก (ทบ.) อนุมัติให้ใช้พื้นที่ 50 ไร่ ใช้ก่อสร้างบ่อฝังกลบขยะ ส่วนความคืบหน้าโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอย ระยะที่ 2 มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท อยู่ระหว่างร่างประกาศเชิญชวนเอกชนและร่างขอบเขตของโครงการและสัญญาร่วมลงทุน เพื่อคัดเลือกเอกชนที่มีความเหมาะสมที่สุดให้มาร่วมลงทุนและที่สำคัญรอกรมธนารักษ์และ ทบ.ฐานะเจ้าของพื้นที่เห็นชอบอนุมัติให้ใช้พื้นที่ดำเนินโครงการ ฯ แต่ติดขัดข้อกฎหมาย จึงต้องล่าช้าออกไปโดยไม่มีกำหนด สถานการณ์ต่อไป ทน. ฯ ยังต้องรับกำจัดขยะจาก 17 อปท. ซึ่งมีปริมาณต่อวัน 370 ตัน โดยลดลงประมาณ 50 ตัน เท่านั้น ขอให้ อปท. จัดกิจกรรมลดขยะต้นทางให้เป็นรูปธรรมด้วย มิเช่นนั้นปัญหาก็จะกลับมาเหมือนเดิมอีก ด้านนายมนต์ ศูนย์สำโรง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) หนองบัวศาลา หมู่ 9 อ.เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งของบ่อขยะ ทน. ฯ กล่าวว่า ร่วม 24 ปี ชาวบ้านหนองปลิงใหม่ หมู่ 9 และพื้นที่ใกล้เคียงของ ต.หนองบัวศาลา ได้รับมลพิษจากขยะที่ไม่ได้เกิดจากพวกเรา ทำให้เป็นตำบลที่มีจำนวนผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ,ทางเดินอาหารและผิวหนัง ในสัดส่วนมากที่สุดของจังหวัดนครราชสีมา ฝากถึงนายอำเภอ ผวจ.โคราช และ พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือด้วย แหล่งข้อมูล : มติชนออนไลน์
