เปิด “4 เหตุผล” ของคำถามที่ว่า ทำไมคนทั้งโลกถึงสนใจ “ภารกิจถ้ำหลวง” จากภารกิจที่แทบจะเป็นไปไม่ได้สู่วันประวัติศาสตร์ที่ “13 ชีวิตกลับบ้านอย่างปลอดภัย” ยังคงเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง กับภารกิจช่วย “13 หมูป่าทีมอะคาเดมี่” พ้นจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย สำเร็จแล้วเมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางการรายงานของสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศหลากหลายสำนัก รวมไปถึงความสนใจจากผู้คนทั้งโลกที่ต่างเอาใจช่วยภารกิจครั้งนี้กันอย่างเต็มที่ จนกลายเป็นคำถามที่ว่า “ทำไมคนทั้งโลกถึงสนใจภารกิจถ้ำหลวง?” และหากจะหาคำตอบของความสนใจดังกล่าว ก็คงเป็นที่มาของ 4 เหตุผล ทำไมทั้งโลกถึงสนใจ “การช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมุป่าอะคาเดมี” คือ มีผู้ชำนาญทำงานภายใต้ภารกิจที่แคบและมีความยากลำบากมากในการเข้าไปช่วยเหลือ ไม่ว่าจะพื้นที่ที่คับแคบ ทัศนวิสัยของการมองเห็นภายในถ้ำที่แทบจะกลายเป็นศูนย์ อากาศในถ้ำที่น้อยลงเเรื่อยๆ การช่วยเหลือที่ทุกคนต่างหาทางพา “13 ชีวิต” ออกมาจากถ้ำให้ได้ รวมไปถึงอุปสรรคต่างทางธรรมชาติๆ จนภารกิจดังกล่าวแทบจะเรียกได้ว่า เป็นความช่วยเหลือที่ “แทบจะเป็นไปไม่ได้” เป็นการร่วมแรงร่วมใจจากอาสาสมัครหลากหลายเชื้อชาติ ที่มีความชำนาญในสาขาอาชีพต่างๆ ทั้งนักดำน้ำและผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด 47 คน จากหลายประเทศ อาทิ อังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย ลาว จีน ญี่ปุ่น และอีกหลายหลายชาติ รวมไปถึงคนไทยที่มีความสามารถหลากหลายอาชีพ โดยทุกคนไม่มีการแบ่งแยกสีผิว ชาติพันธุ์ ศาสนา หรือตั้งคำถามเรื่องต่างๆ แต่ต่างมาเพื่อทำภารกิจ “พา 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมีกลับบ้าน” เพราะรู้ว่าชีวิตของผู้ที่ติดอยู่ในนั้นมีค่ากว่าอะไรทั้งหมด ทุกคนต่างซาบซึ้งในเจตนา ความกล้าหาญของจ่าเอกสมาน กุนัน หรือจ่าแซม อดีตนักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการผู้ล่วงลับระหว่างทำภารกิจลำเลียงขวดอากาศภายในถ้ำ โดย “จ่าแซม” มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะเดินทางมาที่ “ถ้ำหลวง” เพื่อช่วยเหลือเด็กๆให้กลับบ้านอย่างปลอดภัยให้ได้ การอยากเห็นสมาชิกในครอบครัวที่พลัดพรากจากกันมานาน ได้เจอหน้ากันและเรื่องราวจบลงด้วยดี เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภารกิจ ช่วย “ทีมหมูป่าอะคาเดมี” ได้รับความสนใจ ไม่ต่างจากการชมภาพยนตร์เรื่อง “The 33” ซึ่งสร้างมาจากเรื่องจริงของเหตุการณ์คนงาน 33 ชีวิตติดอยู่ในเหมืองใต้ดินของประเทศชิลี เมื่อปี2553 โดยในเหตุกาาณ์ครั้งนั้น หลายประเทศก็ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ และมีคนกว่า 1,000 ล้านคนร่วมติดตามข่าวตลอด 69 วัน จึงสามารถช่วยเหลือคนทั้งหมดก็ออกมาได้อย่างปลอดภัย แหล่งข้อมูล : เดลินิวส์
