มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราชสะดุด ชาวปากช่อง 4 ตำบลกว่า 500 คน รุดร้องเรียนผู้ตรวจการแผ่นดิน หวั่นกระทบพื้นที่ทำกิน-ธรรมชาติ-ค่าเวนคืนต่ำ วอนสร้างทางยกระดับคร่อมถนนมิตรภาพแทน ลุ้นผลสอบปลายเดือนนี้ ด้านทางหลวงโคราชยันไม่ได้บิดพลิ้ว นายลออง ศาลา แกนนำชาวอำเภอปากช่องที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายให้ก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์เส้นทางบางปะอิน-โคราช ทำให้มีประชาชนได้รับผลกระทบจากการถูกเวนคืนที่ดินกว่า 500 ราย ในพื้นที่ 4 ตำบลของอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ ตำบลกลางดง หนองน้ำแดง หมูสี และขนงพระ รวมระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการรวบรวมรายชื่อและร้องเรียนไปยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำอันมิชอบของกรมทางหลวงใน 4 ตำบลดังกล่าว เนื่องจากสร้างผลกระทบต่อประชาชนที่ถูกเวนคืนที่ดินซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรม และชาวบ้านไม่ได้มีส่วนร่วมในการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA อีกทั้งการเวนคืนที่ดินนั้น กรมทางหลวงยังกำหนดราคาต่ำกว่าความเป็นจริง ตารางวาละ 500-1,000 บาท หรือไร่ละ 200,000-300,000 บาท ต่างจากราคาตลาดที่ไม่ต่ำกว่าไร่ละ 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมจากการตัดภูเขา (วัดพระขาว) ความยาวประมาณครึ่งกิโลเมตร การปิดกั้นโพรงระบายน้ำธรรมชาติ ปิดกั้นทางเข้าออกที่พักอาศัยของประชาชนหลายครอบครัว การขวางกั้นทิศทางการระบายน้ำ มีการถมคลองลำตะคองทำให้เกิดการเปลี่ยนทิศทางน้ำ และใช้พื้นที่จุดพักรถเกินความจำเป็น และตัดข้ามถนนสาธารณะโดยไม่ทำสะพานยกระดับ เป็นต้น “ตอนนี้กรมทางหลวงจ่ายค่าสิ่งปลูกสร้างและพืชผลให้ชาวบ้านบางส่วนแล้ว แต่แบบแนวเส้นทางยังพบปัญหาอีกหลายข้อ จึงต้องการให้กรมทางหลวงพิจารณาทบทวนใหม่ เช่น ทางเข้า-ออกหมู่บ้านที่แคบ บางช่วงไม่มีถนนสายย่อยในชุมชนให้สัญจร ที่ดินตาบอดมีหลายร้อยแปลงที่จะเข้า-ออกไม่ได้ ทางลอดมีความกว้าง 3 เมตร และสูง 2.4 เมตรเท่านั้น ทำให้การสัญจรลำบาก รถบรรทุกของประชาชนที่ขนสินค้าทางการเกษตร รถขยะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รถดับเพลิงผ่านไปมาไม่ได้ จึงต้องการให้สร้างมอเตอร์เวย์ยกคร่อมถนนมิตรภาพเส้นเดิม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา” นายลอองกล่าว อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านยืนยันว่าแม้จะมีการเพิ่มราคาเวนคืนให้แต่ก็ไม่ต้องการ เนื่องจากต้องการพักอาศัยในที่ทำกินเดิมของตน ซึ่งหลังจากที่ได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้ทหารได้เรียกผู้ที่ร้องเรียนเข้าไปปรับทัศนคติแล้ว นายลอองกล่าวอีกว่า ล่าสุดเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คณะผู้ตรวจการแผ่นดินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เพื่อรับเรื่องร้องเรียนและหาข้อมูลประกอบการพิจารณาแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริงคาดว่าจะทราบผลภายในเดือนกันยายนนี้ หลังจากนั้นผู้ตรวจการแผ่นดินจะลงมาดูพื้นที่และหาทางแก้ไขปัญหาอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ ด้านนายอดุลย์ เชาว์วาทิน ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 10 (นครราชสีมา) กล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้ทำบันทึกส่งไปยังกรมทางหลวงเรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้ตรวจการแผ่นดินจะทำหนังสือถึงอธิบดีกรมทางหลวงโดยตรง ซึ่งอาจจะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาแก้ไขต่อไป อยากให้ชาวบ้านเห็นว่ากรมทางหลวงมีมาตรการอยู่แล้ว ไม่ได้บิดพลิ้วต่อการทำงานแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า โครงการมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา มีระยะทาง 196 กิโลเมตร วงเงินรวม 76,600 ล้านบาท แบ่งงานก่อสร้างเป็น 40 ตอน ที่ผ่านมามีการประมูลสัญญาไปแล้ว 25 ตอน ลงนามในสัญญาแล้ว 4 ตอน โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา ได้อนุมัติงบประมาณกลางปี 2559 จำนวน 812 ล้านบาท สำหรับสัญญาการก่อสร้าง 4 ตอน และคาดว่าจะเสนอที่ประชุม ครม.ในวันที่ 27 กันยายนนี้ เพื่อขออนุมัติลงนามสัญญาที่เหลืออีก 21 ตอนภายในเดือนกันยายนนี้ เครดิต : ประชาชาติธุรกิจ ที่มาข่าว : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1474878478
