“แรงบันดาลใจ” เป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้ เพราะนอกจากมันจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราผลิตงานดีๆ ออกมาแล้ว มันยังเป็นเชื้อเพลิงเติมเต็มให้กับชีวิตของเราในแต่ละวันด้วย เมื่อเราย้อนกลับมามองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ใช้แรงบันดาลใจไปอย่างสิ้นเปลือง จึงไม่แปลกที่จะเห็นพวกเขาตามร้านกาแฟหรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อซึมซับบรรยากาศ เหม่อมองผู้คน และทิวทัศน์ที่แปลกตา เพื่อกระตุ้นให้เจ้าแรงบันดาลใจออกมาโลดแล่นได้อย่างเต็มที่ หลังจากเราตระเวนไปตามร้านต่างๆ เพื่อนั่งทำงานมาซักพักนึง เราก็เริ่มอยากหาที่เหมาะกับการทำงานแบบเราจริงๆ ที่ใช้พื้นที่เยอะ และเงียบสงบ ไม่มีคนพลุกพล่าน จนวันหนึ่งเราไปเจอกับร้านกาแฟสไตล์โมเดิลแห่งหนึ่งใจกลางเมือง อยู่ในซอยที่มีระดับความซับซ้อนไม่ค่อยสูงเท่าไหร่นัก (เชื่อว่าซับซ้อนกว่านี้ ทุกคนก็เคยไปมาแล้ว) อยู่ในตรอกวัดท่าตะโก แถวๆ เดอะมอลล์ มีชื่อเต็มๆ ว่า MyRoom Co-working Space หรือเรียกสั้นๆ ว่า MyRoom เมื่อเราเดินเข้ามาด้านในก็ไปตามสติ๊กเกอร์ไกด์ที่แปะอยู่ที่พื้น ไปสั่งกาแฟ แล้วขอใช้ห้องกับพนักงานตามคำแนะนำของป้ายบนผนัง ก็มีพนักงานนำขึ้นไป พอถามว่าคิดชั่วโมงเท่าไหร่เท่านั้นแหละ อึ้งมาก คือ ฟรี!! เราก็เกรงใจบอก “พี่…หนูนั่งนานนะ” จะนั่งแช่ทั้งวันกินกาแฟแก้วเดียวก็กระไร คิดตังส์หนูหน่อยเถอะ ปรากฎว่าที่นี่ไม่มีนโยบายเก็บเงินลูกค้าที่จะมาใช้พื้นที่ทำงานตลอดปีนี้เลยค่ะคุณ งั้นปีหน้าก็เก็บน่ะสิ?! แต่ข่าวดีสำหรับสัมภเวสีอย่างเราคือเร็วๆ นี้ เขาจะให้เราทำบัตร Roommate เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย ทั้งสิทธิ์การใช้ห้องฟรี หรือเข้าร่วมกิจกรรมอบรม/สัมนา ไปจนถึงการ Workshop กับวิทยากรชื่อดัง อย่างปีที่แล้วก็จะมีปรัชญา ปิ่นแก้ว, ก้า อรินทร์ ฯลฯ แถมไม่นานมานี้ยังมีกิจกรรม Workshop สนุกๆ อย่างห่อกล่องของขวัญ กับเพ้นท์กระเป๋ากับครูพี่เจี๊ยบด้วย แทบอยากกรีดร้อง ฉันเป็นคนโคราชแท้ๆ ทำไมฉันไม่รู้!! พอขึ้นมาชั้น 2 ก็จะมีตารางปฏิทินเพื่อแจ้งให้ลูกค้าที่มาใช้บริการทราบว่าช่วงไหนจะมีการใช้ห้องบ้าง ส่วนขนมในขวดโหลข้างๆ ก็ทานได้เลยนะ ไม่ได้โชว์ไว้สวยๆ (มันดีตรงนี้แหละ) ชั้นนี้จะแบ่งออกเป็น Meeting Room (ห้องประชุม) กับ Activity Zone (โซนกิจกรรมหรือห้องรวม)ในส่วนของ Meeting Room (ห้องประชุม) ก็จะเป็นห้องกระจกและมีกระดานแบบพิเศษสีฟ้าอ่อนๆ ที่สามารถเขียนได้ทั้งผนัง บนโต๊ะกาแฟก็เขียนได้ ส่วนในห้องรวมก็จะมีโต๊ะประชุมไว้สำหรับคุยงาน กระจกที่เราเห็นอยู่ด้านหลังก็สามารถประยุกต์ใช้แทนกระดานขีดเขียนตามสบาย [soliloquy id=”775″] ใครมาคนเดียว ใช้พื้นที่ไม่มากก็สามารถจับจองโต๊ะเดี่ยวตามมุมต่างๆ ได้ตามใจชอบ วันไหนที่ต้องการประชุมเป็นล่ำเป็นสันกันจริงๆ ถึงขั้นต้องใช้กระดานไวท์บอร์ด โปรเจคเตอร์ และโต๊ะเก้าอี้ที่ถูกกิจลักษณะ MyRoom Space เขาก็มี Meeting Room 2 (ห้องประชุม 2) ให้ เพียงแค่เราไปแจ้งความจำนงค์กับพนักงานว่าต้องการใช้ห้อง เขาก็จะพาเราขึ้นไปบนชั้น 3 ซึ่งห้องนี้จะจุคนได้ประมาณ 8-10 คน เห็นเงียบๆ อย่างนี้ เก้าอี้เขาก็มีเพียบนะคะคุณ ไปหามาเสริมได้ ยิ่งเอาโต๊ะออกนี่ยิ่งสามารถจุคนได้ถึง 20 กว่าคนเลยทันที ส่วนห้องที่เหมือนของท่านผู้บริหารด้านล่างนี้ เป็นห้อง Private Room อยู่เยื้องๆ กับ Meeting Room 2 สามารถใช้ในการทำงานคนเดียว นัดคุยงาน หรือสัมภาษณ์งานก็ยังได้ เรียกได้ว่าทั้งตึกมีห้องที่หลากหลาย ตอบสนองการใช้งานทุกรูปแบบจริงๆ แถมกาแฟที่นี่ก็รสชาติใช้ได้เลยทีเดียว ราคาไม่แพงด้วย นั่งลากไปยาวๆ ถึงสองทุ่มเลยยังได้ โดยสรุปแล้ว ที่นี่เหมาะกับการประชุม/สัมนามากๆ หรือจะนัดลูกค้ามาพรีเซนต์งาน ทำงานคนเดียว ติวหนังสือกับแก๊งเพื่อน หรือจะใช้เป็นแหล่งรวมพลของนักธุรกิจรุ่นใหม่ในการระดมสมอง (Brainstorm) ก็ไม่เลวเลย เพราะที่นี่เขามีอุปกรณ์ให้พร้อมทุกอย่าง ทั้งยังมีห้องหลากหลายรูปแบบให้เราเลือกใช้ตามความเหมาะสมอีกด้วย ชอบที่สุดคือตรงไม่เก็บค่าธรรมเนียมเนี่ยแหละ แค่ห้ามนำอาหารจากข้างนอกมาทาน เพราะมันอาจจะส่งกลิ่นรบกวนลูกค้าท่านอื่นๆ ที่มาใช้บริการเท่านั้นเอง ถ้าจะให้คะแนนเราให้ 8/10 นะ แอบหักตรงที่มีขนมน้อยไปหน่อย แต่ถ้าใครเป็นสายแข็ง ไม่กินจุกกินจิก ชอบที่เงียบๆ ไม่มีคนเดินพลุกพล่าน ที่นี่ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด เอาไปเลยค่ะ 10 กระโหลก!! การเดินทาง:
