จากการตรวจสอบแบบจำลองสภาพอากาศ หรือวาฟ ภาพรวมสภาพการเกิดฝนในประเทศ พบว่า ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน จะเริ่มมีฝนตกในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบ้างบางพื้นที่ และตั้งแต่วันที่ 29-30 เมษายน ทั่วประเทศจะมีฝนตกกระจายต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์อากาศร้อนที่เกิดขึ้นเวลานี้ได้ในระดับหนึ่ง คาดว่าช่วงปลายเดือนพฤษภาคมจะมีฝนตกลงมาอีกระลอกอย่างแน่นอน ส่วนปลายปีหรือราวเดือนพฤศจิกายนก็มีแนวโน้มที่ฝนจะตกค่อนข้างมาก แต่สถานการณ์ที่ยังน่าเป็นห่วงในปีถัดไปก็คือ ฝนที่ตกส่วนใหญ่ยังคงตกเหนือเขื่อนเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะในพื้นที่หลักอย่างลุ่มน้ำเจ้าพระยา จึงต้องใช้ความรอบคอบในการบริหารจัดการน้ำอย่างมาก ส่วนอากาศร้อนที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในเวลานี้ เป็นอากาศร้อนตามฤดูกาลตามปกติของพื้นที่ที่มีต้นไม้น้อย ไม่ใช่ผลกระทบที่เกิดจากคลื่นความร้อนอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะการเกิดคลื่นความร้อนนั้น อุณหภูมิจะต้องสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน อากาศร้อนจะไล่มาตั้งแต่ตอนใต้ขึ้นไปทางตอนเหนือ เหมือนที่เกิดขึ้นที่ประเทศอินเดีย แต่กรณีของประเทศไทยนั้นมีหลายพื้นที่อากาศจะร้อนจัดเฉพาะตอนกลางวัน เมื่อมีลมพัดมาก็จะคลี่คลายลงบ้าง ซึ่งสภาพอากาศเช่นนี้ ยิ่งร้อนมากเท่าใดก็จะมีโอกาศเกิดฝนตกมากขึ้นเท่านั้น อย่างที่เป็นอยู่คือเมื่อความร้อนสะสมมากขึ้นจึงมีฝนตกบางพื้นที่ จึงมีโอกาสเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่า วันที่ 29-30 ประเทศไทยจะมีฝนตกกระจายทั่วทั้งประเทศ แหล่งข้อมูล : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ภาพประกอบ : focuskhonkaen.com
