มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) จัดพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารหอพระประจำโรงพยาบาล มทส. พร้อมเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคสมทบทุนสร้างพระพุทธรูปปางประทานพร และบริจาคเข้ากองทุนโครงการศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ จัดสร้างหอพักผู้ป่วย ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์เพื่อการเรียนการสอน และจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้พอเพียง รองรับผู้ใช้บริการในพื้นที่ภาคอีสานใต้ เมื่อวันที่ 17 พ.ย.59 ณ บริเวณริมสระน้ำ โรงพยาบาลมหาวิทยาเทคโนโลยีสุรนารี ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดี มทส. พร้อมคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนครราชสีมาร่วมให้การต้อนรับ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดหาทุนบริจาค รพ.มทส.ในโอกาสให้เกียรติเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์หอพระเพื่อประดิษฐานพระพุทธประจำโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย ออกแบบให้มีสถาปัตยกรรมร่วมสมัยแฝงพุทธคติ เน้นประโยชน์ใช้สอยขนาดพื้นที่ 2,400 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้มีจิตศรัทธากว่า 300 คน เพื่อเป็นสิริมงคลและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนที่มารับบริการ อีกทั้งใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจในวันสำคัญทางศาสนา ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดี มทส. พร้อมด้วย นายแพทย์ลิขิต มาตระกุล ผู้อำนวยโรงพยาบาลมหาวิทยาเทคโนโลยีสุรนารี ร่วมเปิดแถลงข่าวเพื่อระดมทุนสมทบสร้างพระพุทธรูปปางประทานพร ประจำหอพระ และระดมทุนเข้าโครงการศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ มทส. อธิการบดี มทส.กล่าวว่า “จากการที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ตั้งอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งถือได้ว่าเป็นชัยภูมิยุทธศาสตร์ของประชาคมอาเซียน ด้วยศักยภาพและความเข้มแข็งด้านวิชาการ มหาวิทยาลัยพร้อมที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและสังคม ใน 6 ด้าน คือ ศูนย์กลางการศึกษา ศูนย์กลางด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ศูนย์กลางด้านอาหาร ศูนย์กลางด้านการวิจัย สอบเทียบและรับรองมาตรฐาน ศูนย์กลางด้านกีฬาและการท่องเที่ยว รวมถึงศูนย์กลางด้านสุขภาพ” “เพื่อสร้างความพร้อมสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสาธารณสุข มทส. ได้เปิดการเรียนการสอนสาขาวิชาแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และพยาบาลศาสตร์ ที่ผลิตออกรับใช้สังคมแล้วหลายรุ่นได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ การตั้งโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย ขนาด 120 เตียง พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์อันทันสมัย ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอาคารรัตนเวชพัฒน์แห่งนี้ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2557 เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการมาครบ 2 ปีในวันนี้” “จากจุดยุทธศาสตร์เชื่อมโยงสู่ประชาคมอาเซียน ย่อมเกิดการไหลเวียนของระบบเศรษฐกิจ สังคม และประชากรแรงงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มทส. จึงได้มีโครงการอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ประกอบด้วย อาคารสูง 12 ชั้น ขนาด 700 เตียง บนพื้นที่ใช้สอยรวม 74,000 ตารางเมตร เพื่อให้บริการประชาชนรองรับการรักษาระดับตติยภูมิของเขตสุขภาพที่ 9 (นครชัยบุรินทร์) และสนับสนุนการเรียนการสอน งานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพชั้นคลินิก ได้ในปี 2562” อธิการบดี มทส.กล่าวอีกว่า “อย่างไรก็ตาม โครงการสร้างพระหอประจำโรงพยาบาล โครงการอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ มทส. ตามที่กล่าวมาข้างต้น ยังจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนร่วมแรงร่วมใจจากพี่น้องประชาชนสนับสนุนด้านงบประมาณและความช่วยเหลือด้านอื่นๆอีกมาก มหาวิทยาลัยจึงได้ตั้งโครงการจัดหาทุนรับบริจาค กองทุนโรงพยาบาล มทส. ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชีมา ให้เกียรติประธานคณะกรรมการฯ นายกสภามหาวิทยาลัย แม่ทัพภาคที่ 2 ผู้บริหาร คหบดีในจังหวัดนครราชสี สมาคมศิษย์เก่า มทส.ร่วมเป็นกรรมการ มีผู้อำนวยการโรงพยาบาล มทส. เป็นเลขานุการ” “โดยวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้สร้างห้องพักผู้ป่วยให้เพียงพอต่อความต้องการ สร้างห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ จัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยสำหรับอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ และโครงการจัดหาทุนรับบริจาคเพื่อสร้างหอพระและพระพุทธรูปประจำโรงพยาบาล ปางประทานพรเนื้อสัมฤทธิ์ ขนาด 89 นิ้ว ซึ่งจะประกอบพิธีเททองหล่อองค์พระในเดือนเมษายน 2560 และทำพิธีอัญเชิญขึ้นประดิษฐานประจำหอพระในปลายปีเดียวกัน” อธิการบดี มทส.กล่าวต่อว่า “จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคสมทบกองทุนสร้างหอพระพุทธรูปประจำโรงพยาบาล สามารถจารึกชื่อลงในแผ่นทองสำหรับร่วมเทหล่อองค์พระ ในราคา 100 บาท สำหรับผู้บริจาค 100,000 บาท จะได้จารึกชื่อไว้ ณ หอพระ และผู้บริจาค 500,000 บาท จะได้จารึกชื่อไว้ ณ ฐานองค์พระประธาน” “รวมถึงการบริจาคสมทบเข้าโครงการศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ เพื่อหารายได้สร้างห้องพักผู้ป่วยให้เพียงพอต่อความต้องการ สร้างห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ จัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยสำหรับอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ และโครงการจัดหาทุนรับบริจาคเพื่อสร้างหอพระและพระพุทธรูปประจำโรงพยาบาล ปางประทานพรเนื้อสัมฤทธิ์ ขนาด 89 นิ้ว ซึ่งจะประกอบพิธีเททองหล่อองค์พระในเดือนเมษายน 2560 และทำพิธีอัญเชิญขึ้นประดิษฐานประจำหอพระในปลายปีเดียวกัน” “ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคสมทบกองทุนสร้างหอพระพุทธรูปประจำโรงพยาบาล สามารถจารึกชื่อลงในแผ่นทองสำหรับร่วมเทหล่อองค์พระ ในราคา 100 บาท สำหรับผู้บริจาค 100,000 บาท จะได้จารึกชื่อไว้ ณ หอพระ และผู้บริจาค 500,000 บาท จะได้จารึกชื่อไว้ ณ ฐานองค์พระประธาน รวมถึงการบริจาคสมทบเข้าโครงการศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ วงเงินตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป ทั้งสองโครงการนี้ นอกจากจะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ 2 เท่าแล้ว โรงพยาบาลยังได้จัดสิทธิพิเศษส่วนลดค่าบริการ ตั้งแต่ 10 – 50 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับจำนวนบริจาค พร้อมนี้มหาวิทยาลัยยังได้ขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลดิเรกคุณาภรณ์ เพื่อเป็นเกียรติประวัติและสิริมงคลแก่ครอบครัวสืบไป” ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ กองทุนโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี หมายเลขโทรศัพท์ 0 4437 6888 โทรสาร 0 4437 6889 อีเมล์ suthf@sut.ac.th ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทุกวันและเวลาทำการ
