Black Panther

หลังจากปรากฏตัวมาแล้วก่อนหน้านี้ใน Captain America: Civil War ปีนี้ก็ได้ถึงเวลาของฝ่าบาท ทีชาล่า มาโลดแล่นในหนังเดี่ยวของตัวเองอย่าง Black Panther

ขอย้อนกลับไปเผื่อใครจะลืม ทีชาล่า เป็นพระราชโอรสของ กษัตริย์ทีชาก้า กษัตริย์แห่งเมืองวาคานด้าประเทศโลกที่สามแถบทวีปแอฟริกา ทั้งสองได้เดือนทางมาเพื่อร่วมประชุม แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขณะที่ทีชาก้ากำลังกล่าวต่อหน้าผู้เข้าร่วมประชุมอยู่นั้นได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น ทำให้กษัตริย์ทีชาก้าสวรรคตทันที ลูกชายซึ่งรอดจากแรงระเบิดครั้งนั้นก็ได้เก็บแรงแค้นไว้เพื่อที่จะล้างแค้นให้พ่อตัวเอง

และเหตุการณ์ของเรื่อง Black Panther ก็ได้เริ่มหลังจากเหตุการณ์ใน Civil War ทันที ทีชาล่ากลับมาประเทศวาคานด้า เพื่อเข้าพิธีประลองเพื่อจะเข้ารับตำแหน่งกษัตริย์ของประเทศวาคานด้า พร้อมกับมีผู้ก่อการร้ายมาบุกประเทศเพื่อที่จะครอบครองแร่ธาตุอันเป็นขุมทรัพย์ที่ใช้พัฒนาประเทศและเทคโนโลยีที่เก็บซ่อนไว้ของวาคานด้า

ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย Ryan Coogler ผู้กำกับหน้าใหม่ฝีมือดีโดยผลงานก่อนหน้านี้มีหนังใหญ่อยู่สองเรื่องด้วยกันคือ Fruitvale Station และ Creed โดยทั้งสองเรื่องนี้นำแสดงโดย Michael B. Jordan ซึ่งก็ยังตามมาแสดงใน Black Panther ด้วยเช่นกันในบท Erik Killmonger (สงสัยผู้กำกับท่านนี้จะไว้ใจนักแสดงคนนี้มากถึงขนาดหนังทุกเรื่องของตัวเองมีนักแสดงนำคนนี้ทุกเรื่องเลย ฮ่า)

ส่วนทีมนักแสดงนำของหนังเรื่องนี้ก็ประกอบไปด้วย Chadwick Boseman ในบท T’Challa หรือ Black Panther นั่นเอง,Michael B. Jordan ที่ได้แนะนำก่อนหน้านี้ไปแล้ว มารับบท Erik Killmonger ตัวร้ายหลักของหนังเรื่องนี้,Lupita Nyong’o มารับบทเป็น Nakia สายลับที่ไปแฝงตัวอยู่ต่างประเทศ,Letitia Wright รับบทเป็น Shuri น้องสาวของทีชาล่า เป็นนักวิทยาศาสตร์คนสำคัญของประเทศวาคานด้า และ Martin Freeman มาในบท Everett K. Ross เจ้าหน้าที่CIA ที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย

 

ความรู้สึกชอบ-ไม่ชอบหลังจากดูจบ

  • ต้องขอบอกก่อนเลยว่าหนังเรื่องนี้มันเป็นหนังที่ดูเพลินมาก ตลอดสองชั่วโมงนิดๆของหนังผ่านไปอย่างรวดเร็วและคุณจะไม่อยากให้มันจบเลย
  • สิ่งที่เราชอบอย่างแรกคือการแฝงปัญหาต่างๆ เช่น เรื่องของการเหยียดเชื้อชาติ ปัญหาสังคมโลกที่ทุกวันนี้เป็นอยู่ แล้วหยิบมาเล่าผ่านกลุ่มคนกลุ่มประเทศที่ถูกเหยียด แล้วมันสนับสนุนให้เราเข้าใจว่าทำไมกลุ่มคนพวกนี้ถึงต้องทำอย่างนี้ โดยไม่มีข้อกังขาใดๆเลย
  • เรื่องการแสดงเราว่า ตัวพรเอกทีชาล่า จริงๆเขาก็เด่นนะด้วยตัวบทที่เป็นพระเอก แต่มันโดนพลังการแสดงของตัวละครตัวอื่นเข้ามากลบอ่ะ ด้วยความที่การแสดงของตัวอื่นอย่างตัวน้องสาว หรือแม้กระทั่งตัวร้ายหลักของเรื่องมันดูมีสเน่ห์มากกว่า ทำให้เราจะเอาใจช่วยตัวของพระเอกแบบสุดๆก็ไม่ได้ ตัวพระเอกกลายเป็นตัวละครแข็งๆธรรมดาๆในบางครั้ง แต่บางครั้งเขาก็ปล่อยสเน่ห์ออกมาบ้างเหมือนกันแต่ก็ยังสู้ตัวน้องสาว กับ ตัวร้ายหลักของเรื่องไม่ได้
  • เราชอบตัวร้ายของเรื่องนี้มาก จริงๆแทบจะยกให้ติดอันดับตัวร้ายที่ดีที่สุดของมาร์เวลตัวต้นๆ ทีมสร้างเขาสร้างบทสร้างตัวละครตัวนี้ขึ้นมาได้อย่างสมเหตุสมผล มีการปูเรื่องราวให้เรารู้ว่าอะไรผลักดันให้ตัวละครนี้ต้องทำอะไรอย่างนี้ พร้อมกับการแสดงที่ดีมากของ Michael B. Jordan ทำให้เราชอบตัวร้ายตัวนี้มาก ให้เป็นตัวร้ายที่ดีที่สุดอันดับ 3 ของหนังมาร์เวลเลย ฮ่าๆ
  • หนังเรื่องนี้มันทำให้เรากลับไปคิดถึงหนังมาร์เวลเรื่องแรกๆอย่าง Iron Man ภาคแรกอะไรอย่างนี้ เพราะว่า Black Panther นี้มันไม่ได้มีอะไรหวือหวาเลย อย่างเรื่องก่อนหน้านี้เราก็จะคอยลุ้นว่ามันจะมีอะไรว้าวๆ หรือใครจะมาร่วมแจมมั้ยนะ แต่กับหนังเรื่องนี้เราจะไปว้าวกับการเปิดหูเปิดตาดูโลกของมัน เราได้ดำดิ่งลงไปสู่ประเพณี วัฒนธรรมของประเทศวาคานด้า ได้เห็นโลกเทคโนโลยีที่ผสานเข้ากับความเชื่อได้อย่างเข้ากกันสุดๆ
  • เราชอบที่ตัวหนังมันไม่ได้ไปทางตลกนำแบบเรื่องอื่นๆก่อนหน้า หนังเรื่องนี้ค่อนข้างซีเรียส จริงจัง ดราม่า แต่เมื่อถึงเวลาที่มันจะมีมุข เมื่อเวลาที่มันจะตลกมันก็ทำให้เราขำได้ทุกทีไม่มีพลาด
  • แต่ตัวบทมันไม่ได้มีอะไรใหม่เลย เราเดาได้เลยตั้งแต่ช่วงกลางๆเรื่องว่าหนังมันจะออกไปทิศทางไหน เหตุการณ์อะไรจะเกิดต่อไป แล้วตอนจบจะจบยังไง มันก็หนังตามสูตรสำเร็จตามธรรมดานี่แหละ แต่ที่มันตรึงเราไว้อยู่กับหนังมันก็คือสเน่ห์ของหนัง สเน่ห์ของตัวละคร ที่ทำให้เราชอบมาก
  • หนังเรื่องนี้มันเจ๋งตรงที่ว่าเราอยากดูมันต่อตรงที่มันเป็นมันอ่ะ ไม่ได้มีความอยากดูเพราะบางเรื่องยังไม่เคลียร์ แต่เราอยากดูตรงความเจ๋งของมันต่ออยากดูภายในประเทศของมัน เราว่ามันต้องมีอะไรที่จะทำให้เราว้าวได้มากกว่าที่เห็นในภาคนี้แน่ๆ

 

สรุป

ตัวบทหนังมันไม่ได้มีความใหม่อะไร หนังมันเป็นอะไรที่ตามสูตรมากๆ มีความเดาได้ แต่ตัวเรื่องมันมีสเน่ห์มากทั้งตัวโปรดักชั่นบ้านเมือง การออกแบบสถานที่ และตัวนักแสดงเอง ตัวบทมันไม่ได้ทำให้เราตื่นเต้นอยากติดตามแต่สิ่งที่ทำให้เราอยากติดตามคือโลกของมัน โลกของวาคานด้าที่เราอยากเข้าไปค้นว่ามันจะมีอะไรเจ๋งๆเท่ๆอีกไหม โดยสรุปมันก็เพลินๆดูเรื่อยๆไม่ได้มีความพิเศษอะไรมากมาย แต่มันเป็นหนังที่เปิดมุมมองของโลกในมาร์เวลอีกเรื่องหนึ่งที่ดี มันทำหน้าที่พรีเซนต์ตัวเองได้ดี เราชอบตรงนี้ เราชอบโลกมัน ชอบตัวละคร เจ๋งดี ชอบมาก คงไม่ต้องแนะนำหรอกเนอะยังไงใครๆก็รอคอยเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้บอกตามสูตรก็ไปดูเถอะแนะนำแรงๆ ฮ่าๆ

 

IMDb : 7.3/10

Rotten Tomatoes : 98%

 

รูปภาพจาก : https://www.facebook.com/marvelfanpageth/


Comments are closed.

Check Also

รีวิว Be With You (2018) | ภาพยนตร์รีเมคจากประเทศญี่ปุ่นเอากลับมาทำใหม่ในสไตล์เกาหลี เรียกน้ำตาผู้ชมได้แทบทั้งโรง

Be With You : ปาฏิหาริย์ สัญญารัก ฤดูฝน   เหมือนกั … …