The Shape of Water กีเยร์โม เดล โตโร่ ได้กลับมาทำหนังอีกครั้งกับ The Shape of Water โดยหนังเรื่องนี้เขาได้แรงบรรดาลใจมาจากหนังเก่าเมื่อสมัยที่ตัวเขาได้ดูตอนยังเป็นเด็กคือเรื่อง Creature from the Black Lagoon ปี 1954 โดยเขาได้นำเอาสัตว์ประหลาดน้ำตัวนี้มาอยู่ในเรื่องของตัวเขาเอง ในสไตล์ของเขาเอง พร้อมกับเรื่องราวความรักอันแปลกประหลาดระหว่างคนกับอสูรกาย โดยหนังเรื่องนี้มีพื้นหลังอยู่ในช่วงปี 1960 และเล่าเรื่องของ เอริซ่า (Sally Hawkins) หญิงสาวที่บกพร่องทางการพูด และทำงานเป็นคนทำความสะอาดอยู่ในสถานที่ซึ่งดูเป็นพื้นที่ทดลองสิ่งเหนือธรรมชาติของรัฐบาลแห่งหนึ่ง วันหนึ่งกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ก็ได้นำแทงค์น้ำที่กักขังอะไรบางอย่างไว้ข้างในเข้ามา ด้วยความสงสัยเธอนำให้เธอไปรู้จักกับสิ่งนั้น จนนำไปสู่การช่วยเหลือ การหลบหนี และความรัก หนังเรื่องนี้มาพร้อมกับนักแสดงมือรางวัลคับจออย่าง Sally Hawkins ที่เคยเข้าชิงรางวัลออสก้ามาแล้วหนึ่งครั้งจาก Blue Jasmine และได้เข้าชิงอีกครั้งในสาขานักแสดงนำหญิงจากเรื่องนี้อีกด้วย,Michael Shannon นักแสดงชายมากประสบการณ์ ทั้งนี้ยังเคยชิงออสก้ามาแล้วถึงสองครั้งจากเรื่อง Revolutionary Road และ Nocturnal Animals เมื่อปีที่แล้วด้วย และ Octavia Spencer นักแสดงผิวสีที่เคยได้รับรางวัลออสก้ามาแล้วจากเรื่อง The Help เมื่อปี 2011 พร้อมทั้งยังได้เข้าชิงออสก้าสาขานักแสดงสมทบหญิงของปีนี้ด้วย ในส่วนของหนังเรื่องนี้ก็เข้าชิงออสก้าถึง 13 รางวัลด้วยกัน นับว่าเป็นหนังที่ได้เข้าชิงรางวัลมากที่สุดของปีนี้เลยทีเดียว อีกทั้งยังถูกยกให้เป็นตัวเต็งที่จะได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปีนี้อีกด้วย ความรู้สึกของเราหลังดูเรื่องนี้ เราชอบการเซ็ตบรรยากาศของหนังเรื่องนี้มันดูมีความอึมครึมๆ ชื้นแฉะ แต่ที่แปลกคือมันมีความโรแมนติกแทรกอยู่ในบรรยากาศเหล่านี้ มันเลยเป็นความรู้สึกแปลกๆที่เห็นบรรยากาศทึมๆพร้อมความรู้สึกโรแมนติก หนังมันเพอร์เฟคในหลายๆส่วน เราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงได้เข้าชิงรางวัลหลายสาขาเหลือเกิน ไม่ว่าเรื่องของ production design ที่สร้างเมืองของยุคสมัยนั้นได้งามตาเหลือเกิน อีกทั้งการจัดแสง การถ่ายภาพที่สวยงามเหลือเกิน สุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือเพลงประกอบที่ไม่เด่นเกินหนังคลอๆไปกับเหตุการณ์อย่างเข้ากับตัวหนังได้อย่างลงตัว จะว่าไปมันเป็นหนังที่เป๊ะมากในการกำกับเลยก็ว่าได้ มันสื่อออกมาให้เราเห็นได้อย่างชัดเจนผ่านการแสดง การถ่ายภาพ การจัดแสง การดีไซน์ ดนตรีประกอบและหลายๆอย่าง เราชอบการที่หนังมันยังพูดถึงเรื่องการเหยียดเพศ เหยียดชนชั้น เหยียดผิว เสียดสีสังคม รวมไปถึงเรื่องการคุมคามทางเพศ ที่ไม่ว่าหยิบเรื่องพวกนี้มาเล่นตอนไหนมันก็ยังดูทันสมัยได้ตลอดจริงๆ เราคารวะการเขียนบทของหนังเรื่องนี้มาก มันแทบจะรวมทุกแนวของภาพยนตร์ไว้ในหนังเรื่องเดียวแล้วมันไม่เละ มันกลับเข้ากันอย่างกลมกล่อมและสนุกสนานอย่างมากเลยทีเดียว หนังมันมีทั้งพาร์ทดราม่า ระทึกขวัญ แฟนตาซี และ โรแมนติก มันกลมกล่อมได้อย่างน่าประหลาดใจจริงๆ การแสดงของนักแสดงนำนั้นถือว่าเฉียบขาดมาก โดยเฉพาะตัวของ Sally Hawkins ที่แสดงเป็นคนเป็นใบ้ แต่กับใช้สีหน้า แววตา ท่าทาง รวมทั้งภาษามือได้อย่างเฉียบขาด สุดยอด เราว่าสู้นักแสดงจากเรื่องอื่นได้อย่างสูสีทีเดียว รวมไปถึง Michael Shannon ที่วางตัวเป็นตัวร้ายได้อย่างน่ากลัวมากเลยทีเดียว เขาแสดงได้แบบว่า เราไม่รู้เลยว่าตัวละครนี้กำลังคิดอะไรอยู่ กูมีแผนการ พร้อมกับเอาแน่เอานอนไม่ได้ ซึ่งตัวละครที่มีคาแรกเตอร์แบบนี้มันน่ากลัวและน่าคนหาจริงๆ สิ่งที่เราไม่ชอบอย่างเดียวเลยของหนังเรื่องนี้คือเรื่องราวความรักของคนกับสัตว์ประหลาด หนังมันทำให้เราเชื่อไม่ได้ว่าทั้งคู่มันรักกันจริงๆ ทุกอย่างมันดูเร็วมากเกินไป มันไม่มีที่มาที่ไปของความรักของคู่นี้ อีกอย่างคือมันขาดความสมเหตุสมผลในหลายๆอย่าง เช่น นางเอกเป็นคนทำความสะอาด แต่มีสิทธิเดินเข้า เดินออกห้องทดลอง ห้องประชุม ที่ดูมีความเป็น Top Secret ที่เก็บความลับระดับชาติได้อย่างสบายใจอย่างกับเธอเป็นหัวหน้าฐานลับนี้เลยทีเดียว สรุป หนังมันมีความสนุก เพลิดเพลิน งานสร้าง งานถ่าย งานแสง งานดนตรีคือสุดยอดมาก อีกทั้งงานกำกับที่ถือว่าสุดยอดสุดเนียบ แต่ตัวบทที่ดูมีความลงตัวแต่มันจะเพอร์เฟคแค่ไหนมันก็ยังมีตำหนินิดหน่อยอยุ่ดี แต่ความดีของงานต่างๆมันมากลบ บดบังในส่วนเล็กๆนี้ไปได้ แต่ส่วนตัวเรา เราว่าที่หนังได้เข้าชิงหลายรางวัลมันเกินไปหน่อย บางสาขาเราก็ว่ามันไม่คู่ควรอย่างเช่น ตัวบท เราว่าส่วนนี้มันยังมีตำหนิและเป็นจุดอ่อนของหนังแต่ก็ได้เข้าชิง แต่ในส่วนของงานสร้าง งานดีไซน์ งานถ่ายภาพ ดนตรีประกอบถือว่าสวยสดงดงาม ถ้าใครมีโอกาสได้ดูเราแนะนำนะ เราว่าการเข้าไปดูมันก็คุ้มค่าบัตรแล้ว ไปดูเถอะเราแนะนำ IMDb : 7.8/10 Rotten Tomatoes : 92% รูปภาพจาก : https://www.facebook.com/theshapeofwater/
