ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ตัวแทนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการประกาศเขตโบราณสถานเมืองพิมาย นำโดย นายชูศักดิ์ ชุนเกาะ นายอำเภอพิมายและตัวแทนชาวบ้านเมืองพิมาย ได้เดินทางมาพบนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อยื่นหนังสือขอให้ช่วยเหลือเจรจากับกรมศิลปากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายหลังจากที่ทางกรมศิลปากร ได้มีหนังสือแจ้งให้ชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่าจะประกาศเขตพื้นที่เมืองพิมายทั้งเมือง ให้เป็นเขตโบราณสถานเมืองพิมาย ซึ่งทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่จะประกาศเป็นเขตโบราณสถานได้รับความเดือดร้อน จากกฎระเบียบต่างๆ ที่ทางกรมศิลปากรกำหนด และส่งผลกระทบทำให้ธุรกิจการลงทุนในพื้นที่เมืองซบเซาด้วย โดยทางตัวแทนชาวพิมาย ได้นำเอกสารการประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2479 มายืนยันว่า ขณะนั้นยังไม่ได้มีการกำหนดเขตโบราณสถานทั้งเมือง มีเพียงการขึ้นทะเบียนไว้ 8 จุด ได้แก่ 1.ตัวปราสาทหินพิมาย 2.คลังเงิน 3.เมรุพรหมทัต 4.ซุ้มประตูทิศเหนือ 5.ซากซุ้มประตูทิศตะวันออก 6.ซุ้มประตูทิศใต้ หรือประตูชัย 7.ซุ้มประตูทิศตะวันตก และ 8.แนวกำแพงเมือง ซึ่งเป็นคันดินและคูเมืองเท่านั้น ด้านนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ปัญหาในครั้งนี้ เกิดจากการขาดการสื่อสารที่ชัดเจนจากกรมศิลปากร แม้ขณะนี้จะยังไม่ได้มีการประกาศเป็นเขตโบราณสถาน ทางกรมศิลปากรก็ยังมีการห้ามไม่ให้ก่อสร้างต่อเติมบ้านเรือนแล้ว ยิ่งทำให้ประชาชนเกิดความไม่เข้าใจ นักลงทุนก็ไม่กล้าที่จะมาลงทุนเพิ่ม ส่งผลให้ภาคธุรกิจหยุดชะงัก ซึ่งตนคิดว่าหลังจากนี้ คงจะต้องทำหนังสือถึงกรมศิลปากร ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาชี้แจงกับชาวบ้านให้ชัดเจน แหล่งข้อมูล : Innnews
