กรณีเกษตรกรผู้ปลูกมันเทศญี่ปุ่นเข้าเรียกร้องให้บริษัท พี.พี.เท็นกรุ๊ป จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 13 หมู่ 8 ต.โคกไทย อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ชี้แจงและจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรหลังทำสัญญาเพาะปลูก และซื้อขายยอดพันธุ์เพื่อส่งให้กับทางบริษัทฯ แต่ไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด โดยบริษัทฯอ้างว่า “จะรับซื้อผลผลิตทุกยอดถึงที่และจ่ายเงินสด” ทำให้มีเกษตรกรได้รับความเสียหายกว่า 200 ราย รวมเงินกว่า 20 ล้านบาท โดยเป็นเกษตรกรในพื้นที่ 12 จังหวัด ประกอบไปด้วย นครราชสีมา, พิษณุโลก, ชัยภูมิ, ลพบุรี, ขอนแก่น, สระแก้ว, นครสวรรค์, สุพรรณบุรี, เพชรบูรณ์, ปราจีนบุรี, พิจิตร และร้อยเอ็ดองจากเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน ล่าสุดวันที่ 4 เมษายน ที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เกษตรกรผู้ปลูกมันเทศญี่ปุ่นจำนวนกว่า 20 คน ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นางสาวปัณฑารีย์ โชรัมย์ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.นครราชสีมา โดยทางศูนย์ดำรงธรรมได้ประสานไปยัง สำนักงานเกษตร จ.นครราชสีมา สำนักงานสรรพากรพื้นที่ จ.นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เพื่อรับเรื่องร้องทุกข์และให้คำปรึกษาแก่เกษตรกรผู้ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ นายทรงกลด ศรพรหม อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 55/3 หมู่ 4 ต.เจริญผล อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เกษตรกรผู้ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม และวันที่ 11 และ 27 พฤศจิกายน 2560 นางสาวพบพร พิภพโยพิณกุล ผู้จัดการบริษัท พี.พี.เท็นกรุ๊ป จำกัด และนายธนกฤต ผันสำโรง วิทยากรให้ความรู้แก่เกษตรกร ลงพื้นที่มายัง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เพื่อชักชวนและอบรมให้ความรู้ในการเพาะปลูกมันเทศญี่ปุ่นเพื่อเอายอดพันธุ์ แก่เกษตรกรในพื้นที่ ตนจึงตัดสินใจทำสัญญาเพาะปลูก และซื้อขายยอดพันธุ์เพื่อส่งขายกลับให้กับทางบริษัทฯ โดยลงทุนทำการเกษตรครั้งนี้กับญาติ ใช้พื้นที่ในการเพาะปลูกทั้งหมด 2 ไร่ 1 งาน ต้องลงทุนซื้อยอดพันธุ์จากบริษัทฯ มาเพาะปลูกไร่ละ 4,000 ยอด รวมทั้งสิ้น 9,000 ยอด ในราคายอดละ 10 บาท เป็นเงินลงทุนทั้งหมด 90,000 บาท โดยมีการเก็บผลผลิตส่งให้บริษัทฯ ทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 12 มกราคา 2561 จำนวน 57,960 ยอด เป็นเงิน 260,820 บาท แต่ถูกหักเป็นยอดเน่าเสียกว่า 40 เปอร์เซ็น ได้รับเงินจริง 143,165 บาท และครั้งที่ 2 ตัดยอดพันธุ์ส่งบริษัทฯ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 จำนวน 25,095 ยอด เป็นเงิน 112,927.50 บาท แต่ไม่มีการจ่ายเงินจริง ได้มีการผลัดวันและขอเลื่อนการจ่ายเงินออกไป ซึ่งทำให้เดือดร้อนอย่างหนัก โดยเงินที่นำมาลงทุนนั้น ส่วนหนึ่งได้กู้หนี้ยืมสินคนอื่นมา อีกทั้งต้องจ่ายค่าจ้างแรงงานคนที่จ้างมาทำการเกษตรอีกด้วย อีกทั้งในขั้นตอนการอบรม ทางบริษัทฯ แจ้งกับเกษตรกรว่าจะมีรถมารับผลผลิตถึงแปลงเพาะปลูก แต่เมื่อถึงวันกลับไม่มีรถมารับ และให้ตนขนผลผลิตไปส่งยังบริษัทฯ เอง ซึ่งเป็นระยะทางไป-กลับ จากแปลงเพาะปลูกในพื้นที่ หมู่ 4 ต.เจริญผล อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ มายังบริษัท พี.พี.เท็นกรุ๊ป จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 13 หมู่ 8 ต.โคกไทย อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา กว่า 700 กิโลเมตร ซึ่งตกลงจะให้ค่าน้ำมันกิโลเมตรละ 3 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 2,100 บาท แต่ทางบริษัทฯ จะจ่ายให้ตนเพียง 700 บาท ซึ่งตนไม่ยินยอม ทางบริษัทฯ จึงให้ได้เพียง 1,400 บาทเท่านั้น ซึ่งที่เกษตรกรผู้เสียหายรวมตัวกันมาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมในครั้งนี้ เพื่ออยากจะให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเกษตรกร ให้ได้รับเงินค่าตอบแทนตามสัญญากับทางบริษัทฯ แหล่งข้อมูล : มติชนออนไลน์
