Ready Player One: สงครามเกมคนอัจฉริยะ ขอเล่าถึงที่มาที่ไปของหนังเรื่องนี้ก่อนแล้วกัน หนังเรื่องนี้สร้างมาจากหนังสือด้วยชื่อเดียวกันนี่แหละ เขียนโดย Ernest Cline เขาได้ใส่ความชื่อชอบในหนัง เพลง หรือแม้แต่เกมที่ตนเองชอบเล่นลงไปในหนังสือ สร้างโลกในจินตนาการของเขาขึ้นมา โดยมีส่วนประกอบหลักๆคือ Pop Culture ในช่วงยุค 70-90 ทำให้หนังสือเรื่องนี้ไปเตะตาผู้กำกับและผู้สร้างหลายคนแต่มันก็ไม่เกิดขึ้นมาจริงซักที จนต้องถึงมือของ Steven Spielberg ที่เข้ามาคว้างานนี้ไปกำกับ โดยหนังและจะเล่าเรื่องของยุคที่สภาพบ้านเมืองล่มสลาย ผู้คนมากมายหันเข้าไปใช้ชีวิตในเกมมากกว่าที่จะใช้ชีวิตจริงๆเพราะว่าในเกมมันเหมือนอยู่ในโลกความฝัน เราจะทำอะไรหรือจะเป็นอะไรก็ได้ในนั้น โดยในหนังเล่าถึงช่วงเวลาที่ Halliday เจ้าของบริษัท Oasis โลกเสมือนจริงที่ทุกคนเข้าไปเล่นกันนั้นได้เสียชีวิตไปและก่อนเสียเขาเสียชีวิตเขาได้อัดวิดีโอเนื้อหาว่าในโลก Oasis นั้น เขาในซ่อนกุญแจไว้ทั้งหมด 3 อัน ถ้าใครหาเจอทั้งหมดและเปิดประตูลับได้เขาผู้นั้นจะได้ครอบครองกิจการของ Oasis ในโลกแห่งความจริงทั้งหมด ซึ่งเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เวด หรือชื่อในเกม เพอซิวาล เขาก็เป็นคนๆหนึ่งที่ตามหากุญแจอยู่เหมือนกันเพื่อที่จะเปลี่ยนที่ชีวิตของตัวเองที่ยากลำบาก อาศัยในที่แคบๆอย่างกะรูหนู เพื่อก้าวไปสู่การเป็นมหาเศรษฐี แล้วเหมือน เวด ได้ไปเจอเบาะแสๆหนึ่ง และทำให้เขาได้กุญแจดอกแรกไป เวดกลายไปคนดังในชั่วข้ามคืน และนี่คือเหตุการณ์เปลี่ยนชีวิตของเขา ทำให้เขาถูกตามล่าจาก IOI บริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจาก Oasis โดย IOI หวังที่จะชนะเกมนี้เพื่อที่จะขึ้นไปเป็นที่หนึ่ง เวด โดนตามล่าทั้งในเกมและชีวิตจริง เขาจะหากุญแจเจอหรือไม่ เขาจะทำสำเร็จหรือปล่าว ต้องเข้าไปติดตามชม หนังเรื่องนี้นำแสดงโดย Tye Sheridan นักแสดงหนุ่มดาวรุ่งดวงใหม่ที่กำลังเริ่มมีชื่อเสียมากขึ้นในช่วงนี้ เขาผ่านผลงานดังๆมาแล้วบ้างอย่าง Scouts Guide to the Zombie Apocalypse หนังลูกเสือผจญภัยในวันที่ซอมบี้บุกโลก และ X-Men: Apocalypse หนังที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นในบท Scott Summers หรือ Cyclops โดยใน Ready Player One นี้เขารับบทเป็น Wade หรือชื่อในเกมคือ Parzival สมทบด้วยดาราหน้าใหม่มากมายอย่าง Olivia Cooke ,Lena Waithe ,Win Morisaki อีกทั้งดารารุ่นเก๋าอย่าง Ben Mendelsohn ที่คุ้นเคยใน Rogue One และ Mark Rylance นักแสดงรางวัลออสการ์เมื่อปี 2016 มารับบทเป็น Halliday เจ้าของเกม Oasis หนังเรื่องนี้กำกับโดย Steven Spielberg พ่อมดแห่งวงการฮอลลีวูด หลายๆคนคงจะรู้จักผู้ชายคนนี้ดี เพราะเขาคนนี้ได้สร้างหนังที่คนดูหนังอย่างเราๆประทับใจมาอย่างมากมาย อาทิเช่น Jaws,Indiana Jones 1-4, E.T. ,Jurassic Park หรือจะเป็นหนังยุคใหม่ๆอย่าง Minority Report,Catch Me If You Can,The Terminal คราวนี้เขาได้กระโดดเข้ามารับงาน Ready Player One ที่ดูจากตัวหนังสือแล้วท่าจะทำยากพอสมควรเพราะหนังเรื่องนี้มันมีกำแพงของลิขสิทธ์ขวางกั้นอยู่ เพราะหลายๆตัวละครในเรื่องมันมันมาจากต่างค่ายต่างที่กันทั้งนั้น แต่ด้วยความสามารถของทีมงานทำให้ผ่านพ้นเรื่องกำแพงนี้ไปได้ และผลออกมาเป็น Ready Player One อย่างที่เราได้ดูกัน มาพูดถึงหนังเรื่องนี้หลังดูจบกัน เราชอบหนังเรื่องนี้มาก ถึงแม้จังหวะทางภาพยนตร์เป็นไปอย่างที่เราเดาได้ แต่หนังมันสนุกมากจริงๆ ถึงตัวอย่างจะบอกเล่าเรื่องราวมาบ้างแต่ก็แทบไม่ส่งผลกระทบเลย เพราะว่าหลายๆสิ่งมันสนุกด้วยสถานการณ์ตรงนั้น และตัวคาแรกเตอร์การ์ตูน เกมส์ หรือจากหนังอื่นๆที่โผล่มาในตัวอย่างมันก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกว้าวกับหนังเรื่องนี้น้อยลงเลยจริงๆ การกำกับเรื่องนี้ถือว่าเข้ามือของ สปีลเบิร์กมาก ทั้งจังหวะของหนัง มุกตลก ทุกๆอย่างมันดูเป็นทางเก่าๆของสปีลเบิร์กที่เรารักมาก ถ้าใครรักการหาอีสเตอร์เอ็กเหมือนเราก็จะรักหนังเรื่องนี้มากๆเหมือนกัน เพราะว่ามันเยอะแยะไปหมด แทบจะอยู่ในทุกๆฉากของหนังเลยด้วยซ้ำ และคนที่ดูแล้วก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากจะไปดูอีกรอบสองรอบเพื่อจะไปนั่งหา อีสเตอร์เอ็กในหนังเรื่องนี้ ตัวละครจากค่ายต่างๆที่ผลัดกันมาสร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับเหล่าคนดูอย่างไม่หยุดหย่อน ทั้งจากการ์ตูน เกมส์ หนัง หรือแม้แต่เพลงซึ่งส่วนใหญ่น่าจะมาจากยุค 70-90 ซึ่งเท่าที่ดูก็จะเห็นพี่ๆที่โตในช่วงยุคนั้นจะกรี๊ดกราดกันเป็นพิเศษ แต่ส่วนตัวเราได้ย้อนตามในยุคนั้นมาบ้างทำให้เรากรี๊ดไม่น้อยไปกว่าพี่ๆท่านอื่นเลย เราชอบโลกของ Oasis ที่เขาออกแบบมานำเสนอเรา มันเป็นโลกในจินตนาการของเราจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการขับรถ แข่งรถ การเข้าไปใช้ชีวิต หรือแม้แต่การที่เราเข้าไปในหนังเรื่องต่างๆได้(อันนี้เรากรี๊ดสุด เพราะเราเป็นเนิร์ดหนัง) มันคือจินตนาการของเราจริงๆ และมันทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม การสอดแทรกกิมมิกเล็กๆน้อยของหนังเรื่องนี้ที่เอาเกมส์มาบ้าง เอาเครื่องแต่ตัวจากหนังมาบ้างมันทำออกมาได้อย่างถูกจังหวะ และโดนใจทุกครั้งเลย ข้อเสียก็พอจะมีอยู่บ้าง คือบางอย่างมันไม่สมเหตุสมผลเลย(ในพาร์ทของโลกแห่งความจริงนะ) การกระทำบางอย่างของตัวละครเราก็สงสัยว่ามันทำอย่างงั้นทำไม มันแค่อยู่ตรงนั้นก็รอดแล้ว แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีหนังเรื่องไหนดีไปหมดทุกอย่างหรอก แต่มันก็เป็นเพียงจุดเสียเล็กๆ เรามองข้ามมันไปได้ มันไม่ได้ส่งผลสำคัญต่อเรื่องเท่าไหร่ แค่รู้สึกเอ๊ะใจเล็กๆเท่านั้นเอง สรุป อย่าใช้คำว่าชอบกับเราเลย เรารักเรื่องนี้เลยดีกว่า เรารักหนังเรื่องนี้มาก มันสนุก ตื่นเต้น มีดราม่าบางๆ และมีอะไรให้ว้าวตลอดเวลา มันกลมกล่อมมากๆ ดูแล้วอิ่มเอม มีความสุข รู้สึกคุ้มเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เสียไปมาก เราแนะนำนะว่าไปรู้จักเหล่าอีสเตอร์เอ็กของหนังก่อนก็ดี เพราะจะทำให้เวลาเจอตัวละครต่างๆในหนังมันว้าว และน่าตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้น เราแนะนำนะ อยากให้ทุกคนได้ดูหนังสนุกๆอย่างงี้ในโลกหนังนะ แนะนำแรงๆ IMDb : 8.0/10 Rotten Tomatoes : 76% รูปภาพจาก : Ready Player One Movie
