ไอเดียเจ๋ง! จับวัยเก๋ามาเรียนโซเชียล เปิดแห่งแรกในโคราช ฮือฮา “ราชภัฎโคราช – เทศบาลปรุใหญ่” เปิดโรงเรียน “ผู้สูงวัย ปรุใหญ่วันเก๋า” แห่งแรกในโคราช ไอเดียใหม่ริเริ่มจับผู้สูงอายุในชุมชน หมดยุคนั่งเฝ้าบ้านดูหลาน คนแก่สมัยใหม่ต้องโซเชียลเป็น ใช้คอมฯได้ พูดภาษาอังกฤษเป็นรับ AEC สอนหลายวิชาที่มีประโยชน์ต่อชีวิต เผยเลิกเอางบประมาณผู้สูงอายุพาไปดูงาน ไปไหว้พระ 9 วัดไม่เกิดประโยชน์ เปิดรับ 50 คนเรียนทุกวันพุธ ล่าสุดรุ่น2 แห่สมัครอื้อ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา นายสรายุทธ แก้วกุลปรีชา นายอำเภอเมืองนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดโรงเรียน “ผู้สูงวัย ปรุใหญ่วันเก๋า รุ่นที่ 2” ภายใต้โครงการส่งเสริมกิจกรรมผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ 2559 พร้อมเป็นประธานมอบสัมฤทธิบัตรให้แก่ผู้สูงอายุ ที่ผ่านหลักสูตรโรงเรียน “ผู้สูงวัย ปรุใหญ่วันเก๋า รุ่นที่ 1” นายสุรศักดิ์ ประสงค์หิงษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปรุใหญ่ เปิดเผยว่า “เทศบาลปรุใหญ่มองว่าทำไมคนแก่คนเฒ่าชุมชนเราถึงอยู่บ้านเฉยๆ แล้วก็ไม่มีอะไรทำจะเหงามั้ย พอนโยบายรัฐบาลออกมาว่าให้ดูแลผู้สูงอายุเป็นหลักและเป็นการประหยัดงบประมาณ อย่างเมื่อก่อนเราเอางบประมาณผู้สูงอายุพาไปดูงาน ไปไหว้พระ 9 วัดต่างๆซึ่งไม่เกิดประโยชน์ แต่ถ้าเปลี่ยนมาศึกษาให้ความรู้เต็มๆจะเกิดประโยชน์มากกว่าทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้นมา” “เทศบาลปรุใหญ่มี MOU ร่วมกับม.ราชภัฎโคราช เราวางแผนงานนานมากกว่าจะเกิดโครงการโรงเรียน “ผู้สูงวัย ปรุใหญ่วันเก๋า” ขึ้นมาได้ เราเรียนเฉพาะวันพุธทุกสัปดาห์ ทั้งหมด 12 ครั้ง 3 เดือนจบหลักสูตรโดยมีหัวข้อในการเรียนรู้ ประกอบด้วย ภาษอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ตอบรับ AEC การพัฒนาจิตใจผู้สูงอายุ กิจกรรมทางศาสนา การออกกำลังกายสำหรับผู้สูงวัย การดูแลสุขภาพอย่างพอเพียง กลุ่มสัมพันธ์ เติมฝัน ปันรักให้ลูกหลาน การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม การส่งเสริมอาชีพและการจัดทำงานให้เหมาะสมกับวัย สูงไวไซเปอร์ สามารถเล่นไลน์ในกลุ่มได้จากนั้นก็จะได้นำความรู้โซเชียลไปเล่นกับลูกหลานได้ คอมพิวเตอร์ก็ได้เรียนรู้ หรือภาษาอังกฤษเบื้องต้นเตรียมต้อนรับ AEC ที่กำลังเข้ามาเป็นต้น” “อย่างรุ่นแรกที่เพิ่งเรียนจบ ก็แทบจะไม่อยากจบเพราะผู้สูงอายุมีความรู้สึกผูกพันธุ์กับเพื่อนๆในห้องเรียน พอมาเปิดรับรุ่น2 ก็แทบจะแข่งกันเข้ามาเรียน และคิดว่าจะมีรุ่นต่อไปเรื่อยๆ รับจำกัดแค่ 50 คนเท่านั้น และเป็นโรงเรียน “ผู้สูงวัย ปรุใหญ่วันเก๋า” ภายใต้โครงการส่งเสริมกิจกรรมผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ 2559 แห่งแรกในโคราชอีกด้วย” นายสุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า “สำหรับโรงเรียน “ผู้สูงวัย ปรุใหญ่วันเก๋า” มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความรู้ ความเข้าใจในการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงและมีสุขภาพจิตที่ดี มีสังคมผู้สูงวัยที่เกื้อกูลกัน และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภูมิปัญญาที่ส่งผลต่อความภาคภูมิใจในคุณค่าทางจิตใจ เพื่อเป็นการสร้างเสริมสุขภาพ สร้างขวัญกำลังใจให้ผู้สูงอายุมีทัศนคติที่ดี ต่อการดูแลตนเองเพื่อดำรงอยู่ในสังคมอย่างมีคุณค่า” “ซึ่งโครงการนี้จะทำให้ผู้สูงอายุจะไม่เกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว จากการถูกทอดทิ้งให้อยู่ที่บ้าน และเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวัยสูงอายุ และการดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสมตามวัย เกิดทักษะในการใช้ชีวิต ตลอดจนส่งเสริมการรวมกลุ่มผู้สูงอายุให้เข็มแข็ง สามารถนำความรู้ที่ได้รับถ่ายทอดให้กับผู้สูงอายุในชมรมและในชุมชนได้ต่อไป” นายสุรศักดิ์ กล่าว ด้าน รศ.ดร.วิเชียร ฝอยพิกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา กล่าวว่า “โครงการเปิดโรงเรียน “ผู้สูงวัย ปรุใหญ่วันเก๋า” เป็นแนวคิดของม.ราชภัฎโคราช ที่ทำงานร่วมกับชุมชนในพื้นที่ทั้งจังหวัดอยู่แล้ว แต่โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการริเริ่มโครงการใหม่ๆเข้ามา ซึ่งเราเรียกว่าหลักสูตรสูงวัย สร้างสุข” “พอดีทางนายกเทศมนตรีปรุใหญ่ ได้มาเสนอกับตนว่า ปัจจุบันคนที่อยู่ในพื้นที่ชุมชนปรุใหญ่มีอายุยืนเยอะ คนที่มีอายุเกิน 60 ปีมีมากขึ้นและเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่มีเวลาว่างมาก เราน่าจะมีการพัฒนาให้มีประโยชน์ทั้งเพื่อตัวเอง ครอบครัวและเพื่อทำงานให้กับชุมชน ซึ่งก่อนหน้านี้เรามีโครงการส่งนักศึกษาไปพื้นที่ปรุใหญ่อยู่แล้ว ไปศึกษาหมู่บ้าน ชุมชน โอท็อป เศรษฐกิจชุมชนอยู่ก่อนแล้วมา 2-3 ปี และหลังจากนั้นเขาต้องการพัฒนาผู้สูงอายุให้อยู่ในสังคมปัจจุบันได้ก็เลยเกิดโครงการหลักสูตรนี้ขึ้นมา” รศ.ดร.วิเชียร กล่าวอีกว่า “เริ่มจากเราจะถามผู้สูงอายุเลยว่าอยากเรียนเรื่องอะไรเราจัดให้หมด โดยใช้เวลา 3 เดือนเรียนทุกๆวันพุธเต็มวัน บางสัปดาห์ก็ให้เข้ามาเรียนในมหา’ลัย มาเรียนการใช้คอมพิวเตอร์ ไอที สื่อสาร มาเรียนทำอาหาร การดูแลบ้านเรือน การเต้นรำ ออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ ฯลฯ ซึ่งการที่ต้องให้มาเรียนที่นี่เพราะเรามีความพร้อมในการสอนหลายๆวิชา ตอนนี้มีรุ่นที่ 2 แล้ว” “ปัญหาในการสอนผู้สูงอายุไม่มีปัญหาอะไร แต่กลับเป็นความสนุกทั้งผู้สอนและผู้เรียน เป็นการสอนแบบร่วมทำกิจกรรม เราใช้นักศึกษาและอาจารย์ดูแลและสอนเป็นคนๆไป อย่างรุ่นแรกมี 5 คน ผลการประเมิน 3 เดือนถือได้ว่าประสบความสำเร็จ และเริ่มเป็นโครงการที่นำเข้าแผนของจังหวัดด้วย ต่อไปปีหน้าก็คงจะมีการขยายออกไปสู่ตำบลอื่นต่อไป”
