จบการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ประจำสัปดาห์ที่ 27 “สวาทแคท” หรือสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี โชว์ผลงานได้น่าประทับ ใจด้วยการบุกไปเอาชนะเชียงราย ยูไนเต็ด 1-2 สามารถเก็บ 3 แต้มอันล้ำค่าในช่วงเวลานี้ ส่งผลให้ทีมขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 11 ของตารางคะแนน และตลอดระยะเวลากว่า 4 เดือนที่ผ่านมา ถือเป็นบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งของทีมเลยก็ว่าได้ ด้วยผลงานที่ย่ำแย่ส่งผลให้ทีมเจอมรสุมวิกฤตศรัทธาแฟนบอลเข้าสนามลดลงอย่างน่าใจหาย การต่อสู้เพื่อหนีโซนท้ายตาราง การแบกรับความหวัง ความกดดัน ที่ตอนนี้มีมากกว่าตอนทีมลุ้นเลื่อนชั้นขึ้นลีกสูงสุดเป็นไหนๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมายขึ้นภายในทีม จนมาถึงวันนี้ สิ่งที่ทีมจะต้องแสดงให้แฟนบอลเห็นในความตั้งใจ ความทุ่มเทและความพยายาม เพื่อเรียกพลังศรัทธากลับคืนมายังรังเหย้าสนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ไม่ใช่เพียงคำกล่าวอ้าง หรือคำพูดใดๆ แต่ต้องพิสูจน์ด้วยการทำงานหนัก และมีผลสำเร็จเป็นรูปธรรมด้วยผลงานที่ดีขึ้น … และวันนี้พวกเขาทำได้ สโมสรเริ่มกลับสู่เส้นทางทำผลงานเป็นที่น่าชื่นชมได้อีกครั้ง สโมสรส่งสารความในใจ ผ่านแฟนเพจสโมสรอย่างเป็นทางการ ยอมรับผิดในปัญหาที่เกิดขึ้นและเรื่องที่ทำให้แฟนบอลเสียใจ พร้อมสู้เต็มที่เพื่อขอศรัทธาแฟนบอลโคราชกลับคืนมา ด้วยการทำงานที่หนักกว่าเดิม พร้อมชวนให้เหล่าสาวกแมวพิฆาตเข้าสนามมาให้กำลังใจนักเตะ สำหรับเกมในบ้านที่ยังเหลืออยู่ พวกเขาสัญญาว่าจะสู้เต็มที่ โดยมีเนื้อหาดังนี้ ช่วงเวลาที่เชียร์บอลสนุกที่สุดสำหรับบางคนอาจจะเป็นตอนที่ทีมรักกำลังอยู่ในพื้นที่ลุ้นแชมป์ หรือ อยู่ในเส้นทางที่สวยงาม ซึ่งเราต่างไม่สามารถปฎิเสธได้ เพราะนั้นคือ”เรื่องจริง” หากมองมาที่ “สวาทแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ในช่วงนี้ เรายอมรับว่าสถานการณ์ของทีมไม่เป็นไปตามเป้า หรือ ตามที่หลายคนหวังไว้ จนในบางช่วงบางตอนเราตกไปอยู่ในพื้นที่เส้นสีแดงซึ่งเป็นจุดที่สุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้น ทำให้แฟนบอลหลักหมื่นค่อยๆจางหายลงไป….ทีละนิด จนทำให้ภาพที่เคยเห็นเป็นประจำแปลกตาไป ตอนนั้น..ทุกฝ่ายยอมรับว่ากังวลเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็น นักกีฬา สต๊าฟฟ์โค้ช เจ้าหน้าที่ บอร์ดบริหาร รวมไปถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทีม เพราะหนทางที่กำลังเจออยู่นั้นเป็น”โจทย์ยาก”ที่ต้องแก้ไข ทำให้บางครั้งเราไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วอะไรคือสิ่งที่ต้องแก้มากที่สุด ….กระทั่งทุกฝ่ายเปิดใจ จากจุดนั้นเราได้คำตอบแล้วว่าปัญหามันเกิดขึ้นที่”เรา” คำว่าเราในที่นี้คือทุกคน พวกเรามองย้อนไปยังหน้าที่ของตัวเอง แล้วถามว่าเราทำมันสุดความสามารถแล้วหรือยัง และจะทำเพิ่มให้มากขึ้นกว่าเดิมที่เป็นอยู่ได้ไหม จากปัญหาในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มันคือช่วงเวลาที่แย่ที่สุดสำหรับเราทุกคน แต่อีกมุมหนึ่งมันกลับกลายเป็นจุดที่ฉุดให้เราลุกขึ้นมาอีกครั้ง มันเหมือนแรงอัดที่ตบเข้ามาที่หน้าเรา พร้อมกับถามว่า “สู้ได้แค่นี่เหรอ” จนทำให้เราตะเกียกตะกายขึ้นมาพิงเชือกพร้อมเจอกับทุกเรื่องอีกครั้ง ทุกวันเราซ้อมให้หนักขึ้น ทุกครั้งที่ลงสนามเราวิ่งให้มากขึ้น ทุกครั้งที่ใครล้มเราจะช่วยดึงมือกันขึ้นมาสู้ ทุกครั้งที่เกิดปัญหาเราจะไม่ให้ใครต้องแบกรับไว้คนเดียว ทุกครั้งที่แพ้เราจะเสียใจเท่ากัน ทุกครั้งที่ชนะเราจะมีความสุขไปด้วยกัน “สำหรับชาวจังหวัดนครราชสีมา” เรารู้อยู่แก่ใจว่าเราทำให้แฟนบอลที่รักและศรัทธาพวกเราต้องเสียใจ เรารู้ว่าเป็นเรื่องยากที่จะขอร้องให้ทุกคนกลับมายืนเคียงข้างเราที่ข้างสนาม เราไม่รู้ว่าเกมต่อไปเราจะแพ้หรือชนะ แต่…เรารู้ว่าเราจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เกมในบ้านต่อจากนี้…เราทุกคนอยากเห็นทุกท่านอยู่เคียงข้างเราในสนาม…แบบเมื่อก่อน เราอยากเห็นภาพที่คุ้นตา และ เสียงเชียร์ที่กระหึ่มคอยกระตุ้นจิตใจของพวกเรา เรารู้ว่ามันเป็นคำขอที่มากไป แต่ช่วงเวลานี้เราพร้อมแล้วที่จะกลับมาสู้เพื่อทดแทนต่อกำลังใจที่ทุกท่านมอบให้เราอีกครั้ง “พวกเราขอโทษสำหรับช่วงเวลาที่ผ่านมา และ ขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้มาโดยตลอด” สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ในเกมต่อไปสวาทแคท นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ แบ็งค้อก ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 ของตาราง ในวันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2559 เวลา 19.00น. ณ สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ “เรื่องนี้มองอีกมุมก็เหมือนความรักนะ มีทะเลาะกัน มีโกรธ มีงอล เป็นเรื่องธรรมดา กลับมาดีกันเร็วๆ หล่ะ อยากเห็นภาพพลังสีส้มเต็มสนามอีกครั้ง ไม่ใช่เพื่อทีมโคราชอย่างเดียวนะ แต่เหล่าแฟนบอลโคราช คือความภาคภูมิใจและชื่อเสียงของประเทศไทย ที่วงการฟุตบอลไทย ต้องการพวกเขาเหล่านั้นกลับมา ทำให้ลีกสูงสุดบ้านเรากลับมามีสีสันขึ้นอีกครั้ง” ที่มาข้อมูลภาพประกอบ : Nakhonratchasima FC (Official)
