“อรชัย-หมอโจ้” 2 อดีตปธ.หอการค้าโคราช“กลุ่มโคราชเพื่อโคราช” ชี้เปรี้ยงทางออกวินวินช่วงทุบ“สะพานสีมาธานี” ต้องสร้าง “สะพานแบริ่งชั่วคราว” สกัดรถติด 3-4 ปี เผยลงทุนเพิ่มอีก 300 ล้าน แต่คนโคราชและอีสานยังสามารถใช้เส้นทางหน้าโรงแรมสีมาธานีเหมือนเดิม เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2562 ที่ห้องประชุมสุวัจน์ ลิปตพัลลภ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา “กลุ่มโคราชเพื่อโคราช” โดยนายอรชัย ปุณณะนิธิ อดีตประธานหอการค้า จ.นครราชสีมา และเภสัชกรจักริน เชิดฉาย อดีตประธานหอการค้า จ.นครราชสีมา ประธานกลุ่มโคราชเพื่อโคราช เปิดแถลงข่าว กรณีการสร้างรถไฟทางคู่ช่วงผ่านตัวเมือง จ.นครราชสีมา ที่ในการประชุมย่อยเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมามีมติให้ทุบสะพานสีมาธานี นายอรชัย ปุณณะนิธิ อดีตประธานหอการค้า จ.นครราชสีมา กล่าวว่า “สิ่งที่เราคิดแรกมองว่าการทุบสะพานสีมาธานี ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรก เพราะเส้นทางเข้ากรุงเทพฯมีอยู่ 3 เส้นทาง คือถนนบายพาส-ถนนโชคชัย และถนนมิตรภาพข้ามสะพานสีมาฯ เป็นถนน ที่ต้องใช้เส้นนี้ทั้งภาคอีสาน หากมีการทุบสะพานเกิดขึ้นจะทำให้การจราจรที่ติดขัดอยู่แล้วในช่วงเทศกาลจะวิกฤติติดหนักยิ่งขึ้น” “และการติดของจราจรครั้งนี้ไม่ได้เป็นเรื่องชั่วครั้งชั่วคราว เพราะการก่อสร้างบริเวณสะพานสีมาธานี มีทั้งสร้างสะพานยกระดับของรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง พร้อมอุโมงค์ทางลอดด้วย เรียกว่า 2 แรงบวกดังนั้นที่บอกว่าระยะเวลาสร้าง 3 ปี ตนเห็นการสร้างที่ขอนแก่นและอีกหลายแห่ง ไม่เคยมีที่ไหนสร้างเสร็จก่อนเวลา ข้อมูลนี้กรมทางหลวงยืนยันมาอีกด้วย” “ดังนั้นรถที่จะติดอย่างมหาศาล และมโหฬารช่วงทุบสะพานสีมาธานีจะเป็นเวลายาวนานมาก ตนคิดว่าชาวโคราชจะเอือมระอา สิ่งเหล่านี้เองที่เราคิดว่า จากแบบที่การรถไฟฯเขียนขึ้น เป็นแบบการสร้างสะพานแบริ่งคู่ เป็นสะพานชั่วคราวคู่ขนานสะพานสีมาธานี ซึ่งในหลายประเทศก็ใช้วิธีนี้แก้ปัญหาช่วงทุบสะพาน” นายอรชัย กล่าวอีกว่า “เราก็ไปหาข้อมูลเรื่องการสร้างสะพานชั่วคราว หรือสะพานแบริ่ง โดยไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญกรมทางหลวง ว่าหากทำสะพานชั่วคราวลงทุนเท่าไร ก็ได้คำตอบว่า ราคา 35,000 ต่อตร.ม. คำนวณว่าหากสร้างสะพานชั่วคราวยาว 600 เมตร 2 สะพานไป-กลับใช้เงินประมาณข้างละ 144 ล้านบาท รวมเป็น 288 ล้านบาทซึ่งเป็นงบประมาณที่น้อยมากหากเทียบกับการใช้งบประมาณสร้างทางรถไฟยกระดับ 11,518 ล้านบาท” “เพราะหากสร้างสะพานชั่วคราว ที่ตนไปดูพื้นที่แล้วสามารถสร้างสะพานแบริ่งได้ และสร้างเสร็จใน 6 เดือนเท่านั้น จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดช่วยลดผลกระทบการจราจรได้มาก และสามารถเดินทางผ่านสะพานสีมาธานีได้เหมือนเดิม เมื่อทุบสะพานสีมาทำทางลอดเสร็จก็รื้อสะพานชั่วคราวนี้ออกไปใช้ที่อื่นได้อีก” “ตนอยากให้สื่อออกไปถึงประเด็นนี้ว่า เราไม่ได้คัดค้านอะไร เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับคนโคราชและภาคอีสานช่วงทุบสะพานสีมาธานี และงบประมาณที่เพิ่มอีก 300 ล้านถือว่าน้อยมากถ้าเทียบกับความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้นใน 3 ปีข้างหน้า และจะทำให้ทุกฝ่ายวินวินได้ แต่กลุ่มโคราชเพื่อโคราช จะติดตามเรื่องสร้างสะพานแบริ่งนี้อย่างใกล้ชิด” นายอรชัย กล่าวทิ้งท้าย เภสัชกรจักริน เชิดฉาย อดีตประธานหอการค้า จ.นครราชสีมา ประธานกลุ่มโคราชเพื่อโคราช กล่าวว่า “จากการประชุม “รถไฟทางคู่” พิจารณาเสนอแนะรูปแบบวิธีการก่อสร้างทางรถไฟช่วงผ่านตัวเมืองนครราชสีมา บริเวณสะพานข้ามแยกสีมาธานี เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ศาลากลางจังหวัดฯ ยังมีการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน กลุ่มโคราชเพื่อโคราช มีความกังวลในเรื่องนี้ไม่อยากให้เป็นประเด็นทางการเมือง และเกิดความขัดแย้งในโคราช” “ดังนั้นเราได้ประชุมกันพยายามหาข้อยุติทำให้เกิดประโยชน์กับเมืองโคราชมากที่สุด ตอนแรกเราเคยเสนอว่า เป็นข้อยุติกันระหว่างกลุ่มเรา ตัวแทนเทศบาลนครฯ โยธาจังหวัด หอการค้าและสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฯ โดยสรุปเป็นฉันทามติทิศทางเดียวกันว่า จะให้ทางรถไฟทางคู่ยกข้ามสะพานสามแยกปักฯ-สะพานสีมาธานี และสะพานหัวทะเล นั่นเป็นข้อยุติที่มีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ให้ยกระดับสะพานข้ามไปเลย โดยไม่มีใครเสนอให้ทุบสะพานสีมาธานีเลยในวันนั้น ก่อนที่จะมีการประชุมใหญ่ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่หอประชุมเปรม” เภสัชกรจักริน กล่าวอีกว่า “แต่ในที่ประชุม ทางรฟท.ได้บอกว่าหากจะให้ยกระดับข้ามทั้ง 3 สะพานจะต้องศึกษาใหม่ต้องใช้เวลา ทางกลุ่มเราก็ไปหาคำตอบว่า ถ้าหากต้องทุบสะพานสีมาธานีแล้วทำอุโมงค์ทางลอด จะต้องทำยังไงให้ไม่มีผลกระทบกับคนโคราชมากที่สุด” “เราก็ได้คำตอบโดยมีคุณอรชัย ปุณณะนิธิ ซึ่งเป็นอดีตประธานหอการค้าฯและจบปริญญาโทด้านวิศวะโยธาจราจรจากอเมริกา สรุปว่าช่วงก่อสร้างและทุบสะพานสีมาฯ 3-4 ปีจะมีผลกระทบการจราจร โดยต้องสร้างสะพานคู่ขนานกับสะพานสีมาธานีชั่วคราว และในที่ประชุมย่อยเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ทางผู้ว่าฯ และรฟท.ก็เห็นด้วยกับแนวทางของเรา และเป็นข้อเสนอที่ดีรับแนวทางนี้ไปเพื่อลดผลกระทบช่วงทุบสะพานสีมาฯ” เภสัชกรจักริน กล่าว
