เอาใจสาวกที่หลงใหลการกิน “เนื้อ” โดยเฉพาะ! วันนี้เราจะพาทุกท่านมาเปิดประสบการการทานเนื้อนำเข้าเกรดพรีเมียมแบบเน้นๆ ที่ห้องอาหาร “เดอะ กริลล์รูมโคราช (The Grill Room Korat)” ชั้น 20 โรงแรมแคนทารี สถานที่สุดโรแมนติกท่ามกลางบรรยากาศแบบสวนป่า พร้อมชมวิวเมืองโคราชยามค่ำคืนในมุมที่สูงที่สุดในเมืองโคราช

บริเวณนี้คือส่วนเอาท์ดอร์ที่เนรมิตบรรยากาศแบบสวนป่ามาไว้ใจกลางเมืองเลยทีเดียว

มองไปทางไหนก็ดูเขียวชะอุ่มและดูผ่อนคลายสุดๆ

ถ้าได้ทานมื้อค่ำใต้แสงเทียนคงโรแมนติกน่าดูเลย

บรรยากาศข้างในก็สวยงามหรูหราไม่แพ้กัน

โคมระย้าก็สวยแปลกตา แถมมองออกไปเห็นท้องฟ้าอีกด้วย

มองลงไปข้างล่างก็เห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองโคราชตัดสลับกับพื้นที่สีเขียวที่กว้างใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตา

และขณะนี้โต๊อาหารของเราก็พร้อมแล้ว รออะไร… ไปอิ่มอร่อยกับเมนูเนื้อเกรดพรีเมียมกันเลย!

 

เมนูแรกเราจะพามาเริ่มกันที่ คาร์พาซซิโอเนื้อสันใน และเมสคลุนสลัด ( Beef Carpaccio / 400 Baht) เมนูอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน ซึ่งเป็นการนำเนื้อดิบคุณภาพดี นำมาแล่เป็นชิ้นบางๆ กินคู่กับสลัดซึ่งประกอบด้วยเลม่อนที่ให้รสเปรี้ยวนิดๆ กับมะกอก ตัดกับกลิ่นหอมของหอมแดงและใบร็อคเก็ต จนได้รสสัมผัสที่เนียนนุ่ม ละมุนลิ้น เป็นการเรียกน้ำย่อยค่ำคืนนี้ได้เป็นอย่างดี

ด้วยคุณภาพของเนื้อและส่วนผสมต่างๆ ซึ่งบรรจงจัดเรียงไว้อย่างพิถีพิถันทำให้ได้รสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบทุกชิ้นที่อยู่ในจานที่สามารถผสมผสานกันได้อย่างลงตัว โดยไม่ต้องผ่านการปรุงแต่งใดๆ ทั้งสิ้น

ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ในการกินเนื้อดิบที่ไม่เลวเลยทีเดียว เพราะอร่อย กินง่าย ที่สำคัญไม่มีกลิ่นคาวเลยแม้แต่นิดเดียว

 

ต่อมาเราจะเพิ่มกากใยและไฟเบอร์ด้วยเมนู สลัดถั่วแขก, แอสพารากัส และริคอตต้าชีส (Gree Bean, Asparagus and Ricotta Salad / 260 Baht) ที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างถั่วเขียวและหน่อไม้ฝรั่ง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักมาลวกจนสุก จากนั้นจึงค่อยตามมาด้วยผักสลัดสดๆ อีกนานาชนิด

นอกจากนี้มีมะเขือเทศสีเหลืองแปลกตาให้รสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน ผสานเข้ากับริคอตต้าชีส น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ และเมล็ดอัลมอนต์กรุบกรอบ เคี้ยวมัน

เพิ่มดีกรีความสดชื่นกระปรี้ประเปร่าจากการทำงานที่เหนื่อยล้าให้กลับมามีชีวิตชีวา พร้อมอุ่นเครื่องเตรียมไต่ระดับสู่การลิ้มรสอาหารมื้อหลักชามถัดไปได้อย่างเต็มที่…

 

 

ว่าแล้วก็มาต่อกันเลยที่เมนู ปักเกรี เสิร์ฟพร้อมสตูว์แกะ ฟักทอง (Paccheri with Lamb Ragout and Pumpkin / 350 Baht) เป็นการน้ำเส้นพาสต้าขนาดใหญ่มาพับเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสวางทับกันอย่างสวยงาม ก่อนราดด้วยสตูว์แกะรสชาติเข้มข้น ถึงรสถึงเครื่อง

โดยการนำเนื้อแกะที่นำมาสับอย่างละเอียดก่อนผัดกับเครื่องปรุงนานาชนิด ทำให้น้ำซอสสามารถแทรกซึมเข้าไปถึงทุกอณูของเนื้อแกะได้เป็นอย่างดี

เมื่อผสานเข้ากับพาสต้าเส้นใหญ่หนานุ่มเต็มปากเต็มคำ จึงทำให้ได้รสชาติที่อะไรกลมกล่อมกำลังพอดี เมื่อทุกครั้งที่สองอย่างนี้โคจรมาพบกันจึงเข้ากันได้ดีชนิดที่เรียกได้ว่าโค่นกันไม่ลงเลยทีเดียว

 

 

และที่ขาดไม่ได้เลย สเต็กเนื้อสันใน (Fillet Steak / 1,750 Baht) นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน จนได้เนื้อเกรดพรีเมียมมาโรยเกลือก่อนจะนำไปย่างไฟจนเนื้อด้านนอกสุกแต่ภายในยังเป็นสีชมพูกำลังดีไม่ดิบจนเกินไป

ทำให้ได้รับสัมผัสอันนุ่มชุ่มฉ่ำของเนื้อสันในได้อย่างชัดเจนตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย

กินคู่กับซอสเกรวี่รสนุ่ม หรือคลุกเกลือนิดๆ พร้อมกับกระเทียมย่างก็อร่อยฟินเกินคำบรรยาย งานนี้บอกเลยว่าคนรักเนื้อไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด

 

 

ก่อนจะลาจากกันไป…เราขอตบท้ายค่ำคืนสุดวิเศษนี้ด้วยเมนูเมนูของหวานอร่อยไฟลุกอย่าง เครปซูเซท เสิร์ฟร้อมไอศครีมรสวานิลลา (Crepe Suzette Dessert / 270 Baht) พร้อมชมการแสดงกระบวนการทำให้เห็นถึงที่โต๊ะ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แขกที่มารับประทานอาหารอยู่เป็นอย่างมาก

ซึ่งเมนูนี้เกิดจากการจุดไฟหลอมส่วนผสมซอสผลไม้ให้แอลกอฮอล์ในลอเคียวและบรั่นดีละลายกลายเป็นกลิ่นรสหอมหวาน จนงวดได้ที่จึงค่อยนำมาราดลงกับเครปแผ่นบางเนื้อนุ่มที่จัดเตรียมไว้ โรยด้วยอัลมอนด์สไลด์ตบท้าย เสิร์ฟพร้อมไอศครีมรสวานิลลาราดวิปครีม ตกแต่งด้วยใบเปปเปอร์มินต์เป็นอันเสร็จ

เมื่อทานเข้าไปจะรับรู้ได้ถึงรสชาติของส้มและกลิ่นของเหล้าที่แทรกซึมอยู่ในเนื้อเครปอันชุ่มฉ่ำ ตัดกับรสชาติหวานเย็นและเนียนนุ่มของวานิลลา เป็นอันจบดินเนอร์มื้อนี้อย่างสมบูรณ์แบบ

แต่หากใครอยากยืดค่ำคืนอันแสนหวานนี้ออกไปอีกหน่อย ก็สามารถเพลิดเพลินกับช่วงเวลาอันแสนโรแมนติกนี้ได้ด้วยเครื่องดื่มม็อกเทลที่ผ่านการสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันเป็นพิเศษเฉพาะในแต่ละเดือน เพื่อให้ได้รสชาติอันแสนอร่อยราวกับต้องมนต์

 

 

 

 

Little Zombie 

August (Signature Mocktail )
จุดเด่น : สำหรับคนที่ชื่นชอบ Rum Cocktail ต้องไม่พลาด ด้วยความหนักแน่นของ Spice Rum บวกกับความหอมของสับปะรด เสาวรส และแอปริคอต ความหอมหวานจาก Brown Sugar

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Peach me up

September (Signature Mocktail )
จุดเด่น :
เหมาะสำหรับ คนที่ชื่นชอบ Whiskey Sour แต่ต้องการความแปลกใหม่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

The Honey Torch

October (Signature Mocktail )
จุดเด่น : รสชาติเปรี้ยว อมหวาน หอมกลิ่น burn honey ชินนามอน และ อัลมอนต์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Simply Happy Day

November (Signature Mocktail )
จุดเด่น : ให้ความสดชื่นด้วยแตงโมและน้ำมะนาว ผสานเข้ากับกลิ่นหอมของมะลิได้อย่างลงตัว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Kalimotxo Sour

December (Signature Mocktail )
จุดเด่น : Kalimotxo คือเครื่องดื่มของชาวสเปน ที่ประกอบด้วย ไวน์แดง โคลา เราจึงน้ำมาดัดแปลงให้มีรสชาติหลากหลายมากขึ้น ด้วยส่วนผสมที่เราเองอย่างไวน์แดง พร้อมเพิ่มความหอมหวานด้วยวานิลาไซรัป

 

 

 

 

 

 

 

ส่วนการเดินทางก็สะดวกสบายมากๆ เพียงเดินทางมาโดยใช้ถนนมิตรภาพฝั่งขาออก ผ่านเทสโก้โลตัสสาขาในเมืองไปประมาณ 800 เมตร จะสามารถพบโรงแรมแคนทารีอยู่ฝั่งซ้ายมือ จากนั้นขึ้นบันไดเลื่อนตรงดิ่งขึ้นมาชั้น 20 จะพบกับ “เดอะ กริลล์รูมโคราช (The Grill Room Korat)” พร้อมเปิดให้บริการแล้ววันนี้ตั้งแต่เวลา 18.00 – 24.00 น. ของทุกวัน

หากใครกำลังมองหาสถานที่ดินเนอร์สุดโรแมนติกเสิร์ฟอาหารเกรดพรีเมียม และบริการชั้นเลิศ ซึ่งจะช่วยทำให้ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนอันแสนพิเศษอยู่ล่ะก็… ลองแวะมา “เดอะ กริลล์รูมโคราช (The Grill Room Korat)” ไม่แน่ว่าเราอาจจะเจอสถานที่ที่เราตามหามาทั้งชีวิตก็เป็นได้ สำรองที่นั่งได้ที่ โทร.044-353-011-2


Comments are closed.

Check Also

แกรนด์โอเพ็นนิ่ง “โคเอ็น” แบรนด์ดังร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นปิ้งย่าง-ชาบู-ซูชิ ผงาดเจาะตลาดอีสาน ประเดิมโคราชแห่งแรก!

ดีเดย์ แกรนด์โอเพ็นนิ่งสุดยิ่งใหญ่ KOUEN PREMIUM BUFFET … …