เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ศาลาประชาคมหมู่บ้าน หมู่ที่ 20 บ้านละโว้พัฒนา ต.ประสุข อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา มีการพบเรือไม้ตะเคียนโบราณขนาดใหญ่ ที่บริเวณใต้สะพานลำมาศ บ้านประสุข หมู่ที่ 20 ต.ประสุข อ.ชุมพวง เขตติดต่อกับ บ้านหนองจิก ต.โบสถ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา โดยถูกค้นพบเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2560 ประชาชนต่างพากันมาดูกันเป็นจำนวนมาก พร้อมนำกระถางธูป ดอกไม้ ธูปเทียน มากราบไหว้เพื่อขอโชคลาภ และใช้แป้งฝุ่นที่เตรียมมาถูบริเวณท้องเรือเพื่อหาตัวเลขนำไปเสี่ยงโชค สำหรับความยาวของโบราณตั้งแต่หัวเรือถึงหางเรือวัดได้ 9 เมตร 13 เซนติเมตร ตรงกลางลำเรือกว้าง 1 เมตร นายใจ เจริญศรี อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 111 หมู่ที่ 20 บ้านละโว้พัฒนา ต.ประสุข อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา คนพบเรือไม้ตะเคียนโบราณเป็นคนแรก เล่าว่า เมื่อ 3 วันก่อน ที่จะพบเห็นเรือไม้ตะเคียนโบราณขนาดใหญ่ลำดังกล่าว ตนฝันว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งนำเรือมาฝากไว้กับตนพร้อมกับพูดว่า “นายฉันขอฝากเรือไว้หน่อย” ตนก็รับฝากไว้ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากกับความฝันเพราะคิดว่าเป็นแค่ความฝันปกติ และทุกวันตนก็ได้ไปตักน้ำในบริเวณใต้สะพานลำมาศเป็นประจำทุกวันอยู่แล้วเพราะตนไปทำแปลงปลูกผักซึ่งอยู่ติดกับลำมาศ ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดแปลกพอมาวันนี้ตนกำลังจะก้มลงตักน้ำเพื่อจะไปรดผักมองเห็นหัวเรือโพล่ขึ้นมาเหนือน้ำ ตนตกใจจนขนลุกวิ่งเข้าไปในหมู่บ้านไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ พอชาวบ้านทราบข่าวก็แห่กันไปดู และได้ช่วยกันนำเรือลำดังกล่าวขึ้นมาจากน้ำ และได้ปรึกษากันว่าจะนำเรือไปเก็บรักษาไว้ที่ไหนดีที่จะปลอดภัย ด้านนายจวน นาราย อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 36 ผู้ใหญ่บ้าน บ้านละโว้พัฒนา ม.20 ต.ประสุข อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา เล่าว่าเรือไม้ตะเคียนโบราณขนาดใหญ่ลำนี้ อายุมากกว่า 400 ปี ที่จมอยู่ในใต้สะพานลำมาศ สมัยก่อนลำมาศแห่งนี้ยังไม่มีสะพาน การข้ามไปอีกหมู่บ้านคือบ้านหนองจิก ต.โบสถ์ อ.พิมาย จะต้องใช้เรือเป็นพาหนะ ต่อมาก็มีสะพานเกิดขึ้นนานหลายปีตั้งแต่ตนยังไม่เกิด เรือลำดังกล่าวก็คงจะเป็นเรือโบราณที่คนสมัยก่อนทำจมทิ้งไว้ ส่วนสาเหตุที่ต้องเอาเรือโบราณลำดังกล่าวเอามาไว้ที่ศาลาประชาคมหมู่บ้าน เนื่องจากจะนำเรือไปเก็บรักษาไว้ที่วัด แต่ทางวัดยังอยู่ในช่วงการก่อสร้างศาลาการเปรียญ จึงต้องนำมาไว้ที่ศาลาประชาคมหมู่บ้าน และได้นำเอาตู้รับบริจาคมาจากวัดเพื่อให้ชาวบ้านได้มาทำบุญกับเรือไม้ตะเคียนโบราณ ส่วนเงินที่ได้มาก็จะนำไปสมทบเป็นทุนในการก่อสร้างศาลาการเปรียญวัดบ้านละโว้ต่อไป แหล่งข้อมูล : มติชนออนไลน์
