เนื่องจากวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีฝนตกลงมาบริเวณเหนือเขื่อน วัดได้ 6.2 มิลลิเมตร ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนประมาณ 42,000 ลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้เขื่อนลำตะคอง ล่าสุดมีปริมาณน้ำที่สามารถใช้การได้39.786 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 12 เปอร์เซ็นต์ ของความจุกักเก็บทั้งสิ้น 314.49 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งปริมาณฝนส่วนใหญ่จะตกในพื้นที่ท้ายเขื่อน ทางเขื่อนลำตะคอง มีความจำเป็นที่จะต้องสั่งหยุดจัดส่งน้ำออกจากเขื่อนเป็นวันที่ 2 เนื่องจากในพื้นที่ท้ายเขื่อนตามแหล่งน้ำต่างๆ และตามลำคลองต่างๆ ยังคงมีปริมาณน้ำมากจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา ทั้งนี้ การปรับลดปริมาณที่ส่งออกจากเขื่อน ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำในพื้นที่ท้ายเขื่อนด้วยเช่นกันว่าจะปรับลดมากน้อยเพียงใด ทั้งหมดนี้ก็เพื่อรักษาสมดุลและรักษาปริมาณน้ำต้นทุนภายในเขื่อนเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ แต่อย่างไรก็ตามทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีการคาดการณ์ไว้ว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ในพื้นที่จะมีปริมาณฝนตกมากว่าค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคาดว่าในช่วงนั้นแต่ละเขื่อนก็จะมีปริมาณน้ำกักเก็บเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนสถานการณ์ปริมาณน้ำภายในเขื่อนขนาดกลางและขนาดใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ล่าสุดมีปริมาณน้ำที่สามารถใช้การได้อยู่ที่ 207.53 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 17.97 เปอร์เซ็นต์ จากความจุกักเก็บ 1,216.75 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากเทียบกันช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (1 ก.ค.59) มีปริมาณน้ำที่สามารถใช้การได้อยู่ที่ 109.34 ล้านลูกบาศก์เมตร แหล่งข้อมูล : มติชนออนไลน์ ภาพประกอบ : Prattana Suwanduang (Youtube)
