ยุคนี้ความนิยมการเปิบขนมจีนหรือขนมเส้นขยายวงกว้างไปในทุกภูมิภาคของประเทศไทย…! แต่สำหรับภาคอีสานขนมจีนขึ้นชื่อต้องมาจาก…บ้านประโดก ต.หมื่นไวย อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพราะเส้นขนมจีนที่นี่รับรู้กันไปทั่วในความเหนียวหนึบมากกว่าที่อื่นๆ เมนูที่รับประทานคู่กัน เดิมเป็นน้ำยาป่า จากการต้มเครื่องแกงกับปลา แต่ไม่ใส่กะทิ เทราดคลุกเคล้ากันจะได้กลิ่นหอมหวนเข้มข้น แต่ยุคหลังมีสารพัดแกงกะทิมาเพิ่มเติม ที่เด่นๆเห็นจะเป็นแกงไก่ แกงหมู หรือน้ำยาหวาน นายวัชรินทร์ พัดเกาะ นายก อบต.หมื่นไวย เผยว่า จากการสอบถามขั้นตอนการทำเส้นขนมจีนบ้านประโดก ชาวบ้านเล่าว่า ใช้ข้าวสารค้างปีนำมาหมัก แล้วใช้กระสอบทับทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน พอข้าวสารเปื่อยได้ที่ นำไปโม่ให้ละเอียดแล้วกรองเอาน้ำออกเหลือแต่เนื้อแป้งเหลวๆ หลังจากนั้นตั้งทิ้งไว้สักพัก ก่อนเทใส่ถุงผ้ารีดน้ำให้เหลือแต่เนื้อแป้ง แล้วใช้ของหนักทับทิ้งไว้ 1 คืน รุ่งขึ้นจึงนำแป้งที่ได้ไปต้มพอสุก ส่งเข้าเครื่องโม่จนได้เนื้อแป้งตามต้องการ นำไปบีบโรยในน้ำเดือดก็จะได้เส้นขนมจีนตามต้องการ แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันหลงเหลือผู้สืบทอดภูมิปัญญาการทำขนมจีนประโดกเพียงไม่กี่ราย แม้ว่าจะได้รับความนิยมถึงขนาดถูกนำไปขึ้นห้างกันแล้วก็มี จึงนำไปสู่การรวมตัวเป็นกลุ่มอาชีพขนมจีนประโดก Credit : edtguide สำหรับร้านดังขนมจีนประโดก หรือชื่อเดิมเรียกกันว่า “คะนอมจิน” เจ้าดังแห่งหนึ่ง เคยได้รับรางวัลชนะเลิศการทำขนมจีนน้ำยาอร่อยมาแล้ว อยู่ที่ร้าน “พี่นาง” บริเวณหน้าร้านจึงเต็มไปด้วยหม้อนำยาหรือหม้อแกง 5 อย่าง แต่ถ้าอยากเปิบของจริงของแท้ 22-26 ก.พ.นี้ ไปที่สวนสุขภาพชุมชนบ้านประโดก 9 หมู่บ้านจะไปตั้งซุ้มรอรับบนถนนสายขนมจีน ใน “เทศกาลขนมจีนประโดก ครั้งที่ 19” หรือ “Kanomjeen Pradoke korat Festival 9th” ปีนี้จัดในคอนเซปต์ “ย้อนยุค 200 ปี ขนมจีนประโดก” ของดีที่ถูกบรรจุไว้ในคำขวัญเทศบาลแห่งนี้ ทุกๆฝ่ายจึงกำลังเร่งผลักดันให้ขึ้นชั้นเป็นผลิตภัณฑ์โอทอปอร่อยลิ้นของเมืองย่าโมอย่างแท้จริง…! แหล่งข้อมูล : ไทยรัฐฉบับพิมพ์
