เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ 1 มี.ค. 61 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ตร.ภ.7 ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดกาญจนบุรี และพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อร่วมพิสูจน์จุดยิงและชำแหละเสือดำในคดีที่ นายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหารกรรมการบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมพร้อมพวกรวม 4 คน ขณะเข้าไปลักลอบล่าสัตว์ป่าบริเวณลำห้วยปะชิ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก หมู่ 4 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้พร้อมของกลางซากหนังเสือดำ เนื้อ และหนังเสือดำ รวมทั้งซากไก่ฟ้าหลังเทา สัตว์ป่าคุ้มครอง พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเป็นจำนวนมาก โดยหน่วยพญาเสือ นำชี้จุดที่มีร่องรอย ฉีกขาดที่กิ่งไม้ เถาสะแกวัลย์ คล้ายลูกกระสุนปืนกระทบ สองจุด และที่หิน สองจุด ผลการตรวจตามที่ได้วางจุดต่างๆ ไว้ เช่น 1.จุดที่ยิงเสือดำ 2.จุดที่เสือดำอยู่ 3.จุดที่กระสุนปืนกระทบต้นไม้ และหิน นั้น ซึ่งผลตรวจสอบพบว่า จากข้อที่ 1 จุดที่ยืนยิงเสือดำจุดนั้น ระยะยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นจุดดังกล่าว เนื่องจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ทดสอบระยะจากการทดสอบปืนชนิดเดียวกันในห้องทดลองมาแล้ว พบว่า วิถีและกลุ่มของกระสุนปืนมีการกระจาย ซึ่งถ้าจุดที่กำหนดไว้นั้น ยังต้องถอยออกไปอีก แต่หากถอยออกไปจะสุดขอบถนน ซึ่งมุมอาจไม่สอดคล้องกัน และให้ความเห็นอีกว่าอาจจะเป็นจุดบริเวณใกล้ๆ จุดนี้ 2.จากข้อที่ 1 มีความสัมพันธ์กัน เพราะถ้าหาจุดยืนยิงไม่ได้ การวางกำหนดว่าเสือดำอยู่ตรงไหนก็จะยากขึ้นอีก และ 3.ส่วนร่องรอย ที่หน่วยพญาเสือชี้ว่าเป็นร่องรอยกระสุนปืนบนกิ่งไม้ทั้งสองต้นนั้น เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยืนยันเช่นกันว่า เป็นร่องรอยกระสุนปืนจริง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นกระสุนปืนชนิดใด ต้องหาลูกกระสุนที่ตกบริเวณนั้นได้จึงสามารถระบุได้ว่าเป็นปืนชนิดใด ส่วนร่องรอยบนหินอีกสองจุดนั้น เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ระบุว่า ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นร่องรอยอะไร ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้มอบเครื่องตรวจจับโลหะ เพื่อตรวจหาหัวกระสุน เพื่อค้นหาวัตถุที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีต่อไป ขณะที่ พล.ต.ต.กฤษณะ ได้ระบุว่า หลักฐานที่มีอยู่มากพอที่จะเป็นพยานหลักฐานที่จะเอาผิดคณะของนายเปรมชัยได้แล้ว ต่อมาคณะได้เดินทางไปจุดพักแคมป์ของ นายเปรมชัย เพื่อนำชี้จุดที่พบกระดูกขาหลังขวาของเสือดำให้คณะเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยได้เห็นร่วมกัน สำหรับการดำเนินการเข้าร่วมพิสูจน์ครั้งนี้ เพื่อให้สำนวนและการบันทึกเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยยึดหลักทางวิทยาศาสตร์เป็นหลัก เพื่อให้ผลทางสำนวนและการสอบสวนเห็นภาพเพื่อสะดวกต่อการบันทึกถ้อยคำของโจทก์และทั้งฝ่ายจำเลย และเพื่อแนวทางการให้ปากคำในกระบวนการยุติธรรมต้องถูกต้องแม่นยำและเป็นจริง ที่สำคัญคือเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย แหล่งข้อมูล : มติชนออนไลน์
