ขนส่งเตรียมใช้ใบขับขี่บิ๊กไบค์ภายในปี 62 เผยต้องมีการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติใหม่ แตกต่างจากจักรยานยนต์ทั่วไป ยันกฎหมายขนส่งใหม่เข้มโทษจับ-ปรับ เอาผิดยันผู้ประกอบการและเจ้าของรถ

จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)มีมติเห็นชอบปรับปรุงแก้ไขร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการออกใบอนุญาตขับรถ และการขอต่ออายุ และการอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. 2548 และผู้ที่ประสงค์จะขับรถจักรยานยนต์ที่มีกำลังสูง หรือบิ๊กไบค์ ต้องมีการผ่านการฝึกอบรม และทดสอบการขับรถด้วย พร้อมแยกใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ทั่วไป และรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์นั้น

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมประกาศกฎกระทรวงใหม่และจัดทำข้อกฎหมายมารองรับ คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2562 โดยยืนยันว่าจะไม่มีผลบังคับใช้ย้อนหลัง อย่างไรก็ตามจะเน้นไปที่การควบคุมตัวรถในแต่ละขนาดกำลังของเครื่องยนต์ (ซีซี) รวมถึงเป็นการกำหนดวุฒิภาวะในการรับผิดชอบของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อเป็นการตอบโจทย์ในการป้องกันอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์บนท้องถนน

ทั้งนี้ในส่วนของเกณฑ์ผู้ที่จะขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์นั้น รถจะต้องมีขนาดกำลังเครื่องยนต์เกิน 400 ซีซีขึ้นไป โดยจะต้องเข้ารับการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติใหม่ทั้งหมด รวมถึงต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของกฎหมายจราจร และมีทักษะในการขับรถบิ๊กไบค์ด้วย ซึ่งผู้ที่มีใบขับขี่รถจักรยานยนต์เดิม แล้วมีรถบิ๊กไบค์ ต้องเข้ามาฝึกอบรมทั้งทฤษฎีและปฏิบัติเพิ่มเติม ก่อนที่จะได้รับใบขับขี่ใหม่และถือใบเดียวเท่านั้น ไม่ต้องมี 2 ใบ

“ต่อไปจะออกกฎกระทรวงแยกใบขับขี่รถจักรยานยนต์และใบขับขี่รถบิ๊กไบค์ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมาย โดยเป็นการแบ่งโดยใช้เกณฑ์ขนาดซีซีของรถ” นายสนิท กล่าว

นายสนิทกล่าวต่อว่าด้านความคืบหน้าการควบรวมกฎหมายขนส่งกับกฎหมายรถยนต์เข้าด้วยกัน ขณะนี่อยู่ระหว่างสภานิติบัญญัติร่างกฎหมายใหม่ คาดว่าจะบังคับใช้ได้ภายในปี 2562 นี้ โดยเกณฑ์การคิดอัตราโทษนั้นจะเพิ่มมากขึ้นทั้งโทษปรับและโทษจำคุก รวมถึงการกระจายความผิดไปยังผู้ประกอบการและผู้เป็นเจ้าของรถอีกด้วย ไม่ใช่แค่คนขับขี่

ด้านนายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดี ขบ. กล่าวว่า หลังจาก ครม. เห็นชอบในหลักการแล้วจะนำเสนอร่างดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อพิจารณาร่างฯ คาดว่าจะใช้เวลา 3-4 เดือน โดยสาระสำคัญนั้น จะมีการจำแนก จยย. ที่มีกำลังสูงมีเครื่องยนต์ 400 ซีซีขึ้นไป หรือกำลังตั้งแต่ 35 กิโลวัตต์ขึ้นไป หรือบิ๊กไบค์ นั้นผู้ที่ขอรับต้องผ่านการอบรม. และทดสอบจาก ขบ. ซึ่งเป็นเงื่อนไขกำหนดเพิ่มเติมขึ้นมา

สำหรับสาเหตุที่แยกทำใบขับขี่กับรถ จยย. ทั่วไป เพราะเป็นข้อเรียกร้องจากสังคม เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากในต่างประเทศการขอรับใบขับขี่บิ๊กไบค์จะแยกประเภทกับใบขับขี่รถ จักรยานยนต์ทั่วไปเช่นกัน สำหรับข้อมูลจดทะเบียนบิ๊กไบค์ ณ วันที่ 31 ก.ค.61 มีจำนวน166,868 คันทั่วประเทศ ซึ่งตัวกฎหมายใหม่จะแยกใบขับขี่บิ๊กไบค์กับ ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ทั่วไปอย่างชัดเจน เพราะขณะนี้ กฎหมายปัจจุบันใบขับขี่บิ๊กไบค์ยังอยู่กับใบขับขี่รถจักรยานยนต์ทั่วไป ยังไม่แยกให้เห็นชัด

นายกมล กล่าวอีกว่า การอบรมหลักสูตรจะแตกต่างจากจักรยานยนต์ด้วย เช่น เพิ่มชั่วโมงการอบรมมากขึ้น ปรับปรุงข้อสอบข้อเขียนเพิ่มจำนวนมากขึ้น เกี่ยวกับกฎหมายจราจร กฎหมายรถยนต์ กฎหมายขนส่ง การบำรุงรักษาเครื่องยนต์ และเครื่องหมายจราจร มีสัดส่วนในการนำมาสอบข้อเขียน ซึ่งปัจจุบันผู้มาขอรับใบขับขี่ต้องมีสอบข้อเขียน 50 ข้อ และต้องสอบผ่านได้ 45 ข้อหรือ 90% ตอนนี้ข้อสอบปัจจุบันมีการใช้มา 2-3 ปีแล้ว

ส่วนอายุต้องมีเกณฑ์ 18 ปีขึ้นไป เพราะมีเรื่องขนาดรถใหญ่กว่ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งต่างจากขอรับใบขับขี่ รถจักรยานยนต์ที่อายุ 15 ปีสามารถมาทำใบขับขี่ได้ ที่มีเครื่องยนต์ 110 ซีซีขึ้นไป รวมทั้งการออกแบบใบขับขี่บิ๊กไบค์จะแตกต่างรถจักรยานยนต์ ทั่วไป อยู่ระหว่างออกแบบให้แตกต่างจากปัจจุบันใบขับขี่จะเป็นแบบสมาร์ทการ์ด

 


แหล่งข้อมูล : Posttoday 


Comments are closed.

Check Also

แกรนด์โอเพ็นนิ่ง “โคเอ็น” แบรนด์ดังร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นปิ้งย่าง-ชาบู-ซูชิ ผงาดเจาะตลาดอีสาน ประเดิมโคราชแห่งแรก!

ดีเดย์ แกรนด์โอเพ็นนิ่งสุดยิ่งใหญ่ KOUEN PREMIUM BUFFET … …