บรรยากาศแสนเศร้า!! “แม่น้องมด” ร่ำไห้แทบขาดใจ หลังเดินทางถึงงานศพลูก พร้อมเผยความตั้งใจครั้งสุดท้ายของน้องมดก่อนเสียชีวิต

วันนี้ (3 พฤษภาคม 2561) เวลา 12.00 น. นางวาสนา วิทเซนเฮาเซอร์ แม่ของนางสาวมาริษา วิลัยกรวด หรือน้องมด อาสาสมัครฝึกงานหน่วยกู้ภัยฮุก31 ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถตู้หน่วยกู้ภัยชนท้ายกับรถ บรรทุก ขณะกำลังเดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำที่อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ได้เดินทางมาจากประเทศเยอรมัน ถึงประเทศไทยพร้อมกับ มิสเตอร์ไฮซ์โค วิทเซนเฮาเซอร์ สามีชาวเยอรมัน และนางสาวแพรวา วิลัยกรวด น้องสาวคนเล็กของนางสาวมาริษา โดยมีรถตู้ของมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา (ฮุก 31) เดินทางไปรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ

จากนั้นทั้งหมดได้เดินทางไปที่วัดใหม่อินทราราม ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อร่วมในงานศพของนางสาวมาริษา ซึ่งทันทีที่นางวาสนาผู้เป็นแม่ก้าวลงมาจากรถตู้ก็ได้ร้องไห้โฮแทบขาดใจ และโผเข้ากอดนายมารุต วิลัยกรวด ลูกชายคนโต พร้อมกับนายไฮซ์โค พ่อเลี้ยงชาวเยอรมัน ก็ร่ำไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมากเช่นกัน หลังจากนั้นทั้งหมดได้ขึ้นไปบนศาลาการเปรียญ และทันทีที่เห็นโลงศพลูกสาว นางวาสนาก็ถึงกับเป็นลมล้มพับ จนญาติๆ ต้องเข้าไปช่วยกันปฐมพยาบาลกันอย่างชุลมุน ส่วนนายไฮซ์โค พ่อเลี้ยงชาวเยอรมันก็ร้องไห้เสียใจตลอดเวลาเช่นกัน ทำให้บรรยากาศภายในวัดช่วงนั้นเต็มไปด้วยเสียงร้องไห้ระงม ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัว

นางวาสนา วิทเซนเฮาเซอร์ แม่ของน้องมด เปิดเผยว่า น้องมดลูกสาวคนนี้ได้เดินทางไปอยู่ที่ประเทศเยอรมันกับตนเองตั้งแต่ตอนที่น้องมดอายุ 10 ขวบ และน้องมดมีความตั้งใจเรียนหนังสืออย่างมาก โดยมักพูดให้ตนเองฟังว่าชอบงานด้านช่วยเหลือสังคม และถ้าเรียนจบแล้วอยากจะเป็นพยาบาล ดังนั้นเมื่อน้องมดเรียนจบระดับไฮสคูลแล้ว จึงได้ขออนุญาตตนเดินทางกลับมาเยี่ยมญาติที่ประเทศไทย ที่จังหวัดนครราชสีมา และได้สมัครเป็นอาสาสมัครฝึกงานของมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา เพราะน้องมดต้องการใบผ่านการฝึกงานจากหน่วยกู้ภัยกลับไปประกอบการสมัครเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่ประเทศเยอรมัน

โดยตลอดเวลาที่น้องมดกลับมาเมืองไทยตนก็ได้โทรศัพท์สอบถามสารทุกข์สุขดิบของลูกสาวตลอดเวลา เพราะเป็นห่วงในความปลอดภัย ซึ่งลูกสาวก็บอกว่าสบายดี ชอบงานด้านนี้มาก แม้ว่าจะครบชั่วโมงการฝึกงานไปแล้ว น้องมดก็ยังไปช่วยทำงานกู้ภัยต่อระหว่างรอกลับประเทศเยอรมันในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้  ซึ่งน้องมดพูดเสมอว่าถ้าได้ทำงานเป็นพยาบาลแล้ว จะเลี้ยงดูพ่อแม่อย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อนเวลา

ทั้งนี้ตนเองไม่ได้อยากโทษคนขับรถ เพราะเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุ โดยตนพร้อมที่จะให้อภัยคนขับรถกู้ภัยคันดังกล่าว เพียงแต่ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของตนเอง จึงอยากให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกคนว่า อย่าขับรถเร็ว และอย่าประมาท โดยขอให้น้องมดเป็นคนสุดท้ายที่ต้องเสียชีวิตจากเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นพิธีฌาปนกิจศพของน้องมดแล้ว ก็จะนำอัฐิของน้องมดส่วนหนึ่งไปลอยอังคาร  และอัฐิส่วนหนึ่งนำกลับไปที่ประเทศเยอรมัน โดยพิธีฌาปนกิจศพของน้องมด จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคมนี้ เวลา 16.00 น. ที่เมรุวัดใหม่อินทราราม โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ

แหล่งข้อมูล : tnews