เมื่อวันที่ 5 เม.ย.60 พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยถึงมาตรการห้ามนั่งท้ายกระบะรถ และ ห้ามนั่งแคปรถกระบะ อันสืบเนื่องมาจากคำสั่งตามมาตรา 44ในการแก้ พ.ร.บ.จราจร ว่า ล่าสุดทาง สตช.ได้หารือกับทางกรมการขนส่งทางบกเกี่ยวกับแล้ว เห็นว่าเพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน เพราะยังเตรียมตัวไม่ทัน จึงเห็นร่วมกันว่าควรขยายเวลาในการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนเพิ่มขึ้นอีก จากเดิม 15 วัน ซึ่งจะเริ่มจับปรับในวันนี้ (5 เม.ย.) ออกไปเป็นหลังสงกรานต์”

“ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดเวลาชัดเจนว่าจะเริ่มจับปรับผู้ทำผิดอย่างจริงจังเมื่อไร แต่เบื้องต้นคือขยายไปหลังสงกรานต์ก่อน” ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าว

ทั้งนี้ พล.ต.ท.วิทยา ว่า ได้มีการนำเรียนเรื่องนี้ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯทราบแล้ว โดยนำเรียนผ่านเลขาธิการนายกฯ

ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็เห็นด้วย “ท่านนายกฯก็ไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อน ท่านสั่งให้ไปดูช่องทางช่วยเหลือประชาชนไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในช่วงสงกรานต์ ซึ่งเราก็จะไปเข้มงวดในเรื่องการใช้ความเร็ว เรื่องเมา และเรื่องการฝ่าฝืนกฎจราจร” ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าว

ทั้งนี้ ทาง สตช.ได้มีการแถลงร่วมกับกรมขนส่งทางบกเมื่อช่วงเย็นนี้ (5 เม.ย.60) โดยทางด้าน พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบ.ตร. และโฆษก กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องออกกฎหมายดังกล่าว ทุกคนคงสามารถจำได้ถึงเหตุการณ์รถกระบะ และรถตู้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 23 คน เกิดจากการไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และนั่งกระบะตอนท้าย จึงจำเป็นต้องออกกฎหมายมาบังคับใช้ หลังจากเริ่มดีเดย์ใช้กฎหมายในวันนี้ มีการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย ทางรัฐบาลจึงได้มอบหมายให้ผมทำความเข้าใจ โดยในปีนี้ นายกฯมีความเป็นห่วงเรื่องวินัยจราจรอย่างยิ่ง เพื่อให้ประชาชนปลอดภัยและสูญเสียน้อยที่สุด

พล.ต.อ.เดชณรงค์ กล่าวต่อว่า ในการเดินทางขนส่งสาธารณะ เรื่องรถตู้ ต้องคาดเข็มขัดทุกที่นั่งเหมือนที่มีคำสั่งไป ส่วนที่สอง คือ การใช้รถกระบะ ทั้งสแปซแคป และกระบะที่ไม่มีหลังคา โดยช่วงนี้จะผ่อนผัน อนุโลมให้ก่อนในส่วนของรถกระบะ และจะพิจารณาอีกครั้งหลังสงกรานต์ โดยให้นโยบายไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ให้เจ้าหน้าที่ทำความเข้าใจกับประชาชนก่อน

“ประชาชนเป็นศูนย์กลาง อะไรที่ดีที่สุดสำหรับประชาชน เราจะมาดูกันอีกครั้ง ช่วงนี้จะเป็นการสร้างความเข้าใจ สร้างความรับรู้ประชาชน ส่วนเรื่องอื่น เรื่องเมาแล้วขับ หรือการใช้ความเร็ว ก็ต้องมีการเข้มงวดในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน ขอเน้นย้ำว่า การนั่งในกระบะตอนท้ายจะต้องไม่นั่งบนขอบกระบะ และจะต้องไม่ใช้ความเร็ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนอาสามาทำงานเหนื่อยเพื่อให้ประชาชนปลอดภัย”

ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อกำหนดเรื่องจำนวนผู้นั่งในแคป พล.ต.อ.เดชณรงค์ กล่าวว่า ขออย่าเพิ่งมาถามเรื่องนี้ เพราะตอนนี้ผ่อนผันให้แล้ว ซึ่งจะเน้นประเด็นหลัก เรื่องความเร็ว ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร ฝ่าฝืนป้ายคำสั่งจราจร ปีนี้อยากให้เฉลิมฉลองอย่างมีคุณภาพ

เมื่อถามว่าจะมีการศึกษาอย่างไร พล.ต.อ.เดชณรงค์ กล่าวว่า ขณะนี้มีกรอบความคิดที่จะดำเนินการอยู่แล้ว แต่ย้ำว่าประชาชนจะได้ประโยชน์สูงสุด

 

ข่าวสด
แหล่งข้อมูล : ข่าวสด
ภาพประกอบ : mthai


Comments are closed.

Check Also

แกรนด์โอเพ็นนิ่ง “โคเอ็น” แบรนด์ดังร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นปิ้งย่าง-ชาบู-ซูชิ ผงาดเจาะตลาดอีสาน ประเดิมโคราชแห่งแรก!

ดีเดย์ แกรนด์โอเพ็นนิ่งสุดยิ่งใหญ่ KOUEN PREMIUM BUFFET … …