วันที่ 28 กรกฎาคม 2560 นายชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุเซินกาที่พัดผ่านเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยช่วงระหว่างวันที่ 25-28 กรกฎาคมนี้ ส่งผลให้เกิดฝนตกในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาอย่างต่อเนื่อง ฝนที่ตกลงมานี้ทำให้เขื่อนหลักทั้ง 5 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งประกอบไปด้วย เขื่อนลำตะคอง เขื่อนลำแชะ เขื่อนมูลบน เขื่อนลำพระเพลิง และเขื่อนลำปลายมาศ มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมก็ถือว่ายังมีปริมาณน้ำไม่มากนัก เฉลี่ยรวมทั้ง 5 เขื่อนมีปริมาณน้ำเหลือเก็บอยู่แค่ 46% เท่านั้น ช่วงหน้าฝนนี้จึงยังต้องการพายุฝนมาเติมน้ำในเขื่อนอีกจำนวนมาก เพื่อให้ได้น้ำอย่างน้อย 70% ดังนั้น ช่วงนี้จึงต้องบริหารจัดการน้ำอย่างเข้มงวด โดยบริเวณเหนือเขื่อนจะพยายามเก็บน้ำไว้ให้ได้มากที่สุด ส่วนท้ายเขื่อนจะอาศัยการพึ่งพาตนเอง เช่น การใช้น้ำฝนทำการเกษตร และการเก็บน้ำไว้ในสระน้ำของชุมชน เพื่อใช้เป็นน้ำอุปโภคบริโภค เป็นต้น สำหรับปริมาณน้ำล่าสุดในเขื่อนหลักทั้ง 5 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา ประกอบไปด้วย เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ 81 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 25 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 314 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ 69 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 49 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 141 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ 145 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 53 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 275 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ 85 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 55 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 155 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนลำปลายมาศ อ.เสิงสาง มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ 57 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 59 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 98 ล้านลูกบาศก์เมตร แหล่งข้อมูล : มติชนออนไลน์
