เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่สวนสัตว์นครราชสีมา ได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจกรงเลี้ยงพญาแร้ง ซึ่งอยู่โซนสัตว์ปีกภายในสวนสัตว์นครราชสีมา ปัจจุบันที่สวนสัตว์แห่งนี้มีพญาแร้งอยู่ทั้งหมด 7 ตัว ปล่อยไว้ในกรง 4 กรง โดยจับคู่ 3 คู่ เพื่อทดลองขยายพันธุ์พญาแร้งกลับคืนสู่ธรรมชาติ หลังจากปัจจุบันได้สูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติในประเทศไทยแล้ว นายประเสริฐ จันทร์กลาง เจ้าหน้าที่สวนสัตว์นครราชสีมา กล่าวว่า เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ของประเทศไทยในปัจจุบันไม่เอื้ออำนวยต่อการเป็นอยู่ของพญาแร้ง โดยเฉพาะการใช้ยาฆ่าแมลง สารเคมีต่างๆ ทำให้พญาแร้งอพยพย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่นและสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติในประเทศไทย ขณะนี้จะหาดูได้ในสวนสัตว์เท่านั้น ซึ่งสวนสัตว์นครราชสีมามีอยู่ทั้งหมด 7 ตัว เป็นตัวผู้ 3 ตัว และตัวเมีย 4 ตัว ปัจจุบันทางสวนสัตว์กำลังพยายามขยายพันธุ์พญาแร้ง โดยจับคู่พญาแร้งอยู่ด้วยกัน 3 คู่ แต่ยังไม่สามารถที่จะผสมพันธุ์จนออกไข่ได้ เนื่องจากไม่คุ้นเคยกับสภาพการเป็นอยู่ แต่มีอยู่หนึ่งคู่ที่กำลังมีพฤติกรรมสร้างรังแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี โดยเจ้าหน้าที่กำลังเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด เพื่อลุ้นให้มันผสมพันธุ์กันและวางไข่ หากทำได้จะเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่สามารถขยายพันธุ์พญาแร้งได้สำเร็จ หลังจากนั้นจะทำการขยายพันธุ์ตัวอื่นเพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป สำหรับลักษณะของพญาแร้ง โดยทั่วไป เพศผู้จะมีลำตัวสีดำ เพศเมียลำตัวสีขาว จะโตเต็มที่ภายใน 3 ปี ขนาดลำตัวโตเต็มที่ประมาณ 80 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 3.7-5.4 กิโลกรัม ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะคล้ายกัน เมื่อโตเต็มที่หัว คอ และเท้ามีสีแดง ขนตามลำตัวสีดำ ขนที่หน้าอกและโคนขามีสีขาว ที่คอมีสีขาวขึ้นโดยรอบมองดูคล้ายสวมพวงมาลัย ตัวที่ยังไม่โตเต็มที่ ขนบริเวณหัวและอกมีสีขาว ปีกสีน้ำตาล บัจจุบันไม่พบในธรรมชาติประเทศไทยแล้ว ส่วนมากพบที่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา พม่า และ ลาว ซึ่งสวนสัตว์นครราชสีมา ถือว่าเป็นหน่วยงานหนึ่งที่กำลังพยายามเพาะพันธุ์คืนสู่ธรรมชาติต่อไปในอนาคต แหล่งข้อมูล : มติชนออนไลน์
