ผู้การโคราช แจงระงับใช้กล้องซีซีทีวีตรวจจับความผิดจราจร แค่ชั่วคราว เพราะทำงานซ้ำซ้อนกันหลายหน่วยงาน เตรียมหารือบูรณาการร่วมกัน ก่อนกลับมาใช้ใหม่ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จากกรณีที่ พลตำรวจตรี สุภากร คำสิงห์นอก ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้มีหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 19 มิถุนายน 2560 แจ้งไปยังหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ให้ระงับการใช้เครื่องตรวจจับความเร็ว และอุปกรณ์กล้องซีซีทีวี สำหรับจับกุมความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร โดยกำชับให้ทุกสถานีตำรวจปฏิบัติตามแนวทางหนังสือคำสั่งดังกล่าวอย่างเคร่งครัด และหากตรวจพบว่าสถานีตำรวจภูธรใดยังมีการฝ่าฝืน ปล่อยปละละเลย ไม่ถือปฏิบัติตาม จะพิจารณาข้อบกพร่องของผู้ที่เกี่ยวข้อง เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พลตำรวจตรี สุภากร คำสิงห์นอก ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผย พร้อมกับชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า คำสั่งในหนังสือดังกล่าวเป็นการกล่าวอ้างถึงหนังสือฉบับเดิม ซึ่งผู้นำหนังสือดังกล่าวมาเผยแพร่ ไม่ได้มีการแนบหนังสือฉบับเดิมมาด้วย จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่า ตนมีคำสั่งให้สถานีตำรวจภูธรทุกแห่งในจังหวัดนครราชสีมา ยกเลิกการใช้เครื่องตรวจจับความเร็ว และกล้องซีซีทีวี ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ได้เป็นการยกเลิก แต่เป็นการระงับใช้ชั่วคราวเท่านั้น เพื่อดำเนินการปรับปรุงจุดติดตั้งเครื่องตรวจจับความเร็ว และอุปกรณ์กล้องซีซีทีวีขึ้นใหม่ เพื่อไม่ให้มีการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวซ้ำซ้อนกัน เนื่องจากบนถนนสายหลักที่ผ่านจังหวัดนครราชสีมา ทั้งถนนมิตรภาพ, ถนนสาย 304 นครราชสีมา-กบินทร์บุรี และถนนสาย 24 ทางต่างระดับสีคิ้ว-อุบลราชธานี มีสถานีตำรวจภูธรตั้งอยู่หลายแห่ง และมีกล้องซีซีทีวีอยู่จำนวนหลายจุด ทั้งของทางตำรวจภูธรพื้นที่ ตำรวจภูธรจังหวัด ตำรวจทางหลวง และสำนักงานขนส่ง จึงทำให้ในบางพื้นที่มีกล้องซีซีทีวีตรวจจับความเร็วอยู่หลายตัวในบริเวณเดียวกัน ซึ่งถือเป็นการทำงานที่ซ้ำซ้อน ในขณะที่บางจุดกลับไม่มีกล้องซีซีทีวีเลย ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา จึงเตรียมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการการทำงานใหม่ ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาแล้ว และคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จากนั้นก็จะยกเลิกคำสั่งระงับใช้เครื่องตรวจจับความเร็ว และกล้องซีซีทีวีต่อไป ทั้งนี้ การใช้เครื่องตรวจจับความเร็ว และอุปกรณ์กล้องซีซีทีวี ไม่ได้เป็นการจับผิดพี่น้องประชาชน แต่อุปกรณ์ดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนโดยตรง ในการช่วยลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุ และปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี. แหล่งข้อมูล : ไทยรัฐออนไลน์
