เอาล่ะค่ะ! หลังจากที่เราพาทุกคนปั่นจักรยานชมทุ่งกังหันลมบนยอดเขายายเที่ยงกันแบบสดๆ รอบอ่างเก็บน้ำเป็นระยะทางถึง 2 กม.! เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนคงอยากรู้แล้วล่ะซี่~ ว่าเราเย็นนั้นเราแวะไปเติมพลังกันที่ไหน บอกได้เลยว่าอาหารอร่อยแถมวิวสวยสุดๆ จนคุมะจังต้องแอบมารีวิวให้ฟังกันเลยทีเดียวค่ะ 

เมื่อเราเดินทางกลับลงมาจากเขายายเที่ยงด้วยสภาพที่หิวโซกันไปทิวแถว แน่นอนว่าร้านอาหารที่เราเลือกทานก็จะต้องอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับอ่างเก็บน้ำมากนัก เราจึงเลือกขับรถลงมาด้านล่าง ผ่านเส้นทางเล็กๆ อันคดเคี้ยวเลี้ยวลดและอุดมไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์คอยให้ร่มเงาตลอดทาง จนพบกับ “บ้านไร่ปลายเนิน” ซึ่งรอคอยเราอยู่ตรงสุดปลายเนินเขา

บรรยากาศภายในร้านถูกตกแต่งอย่างอบอุ่น เสมือนเป็นบ้านไม้เล็กๆ ด้านในเป็นคาเฟ่ที่เปิดให้นักเดินทางเข้ามาสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมเลือกซื้อของที่ระลึกน่ารักๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้าน

ส่วนด้านข้างจะเป็นส่วนที่ถูกต่อเติมให้ยื่นออกไปด้านข้างเพื่อรับรองอาคันตุกะจากทั่วทุกสารทิศให้แวะเวียนมาทานอาหาร จิบเบียร์นอก พลางชมวิวทิวทัศน์สวยงามตระการตาของผืนป่าที่โอบล้อมเราอยู่อย่างแน่นขนัด ในขณะเดียวกันก็สามารถมองเห็นกังหันลมที่อยู่หลังเนินเขา และแสงไฟจากชุมชนด้านล่างที่ส่องสว่างสวยงามราวกับ ”ดาวบนดิน” ได้อย่างชัดเจน

หลังจากฝนตกลงมาจนต้นไม้น้อยใหญ่พร้อมใจผลิดอกออกใบเขียวเต็มต้น หอบเอาอากาศอันบริสุทธิ์สดชื่นส่งมาถึงตัวเรา และพัดพาเอาความคิดในแง่ลบที่มีต่อการท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝนก่อนหน้านี้ไปจนหมดสิ้น ยิ่งได้มาช่วงช่วยเช้าๆ หลังจากฝนตกใหม่ๆ จะมีหมอกลอยขึ้นมาปกคลุมทั่วผืนป่าทั้งหมดที่เราเห็นนี่เลย คิดดูว่าจะสวยขนาดไหน แถมอยู่ห่างจากตัวเมืองแค่ 70 กม.เท่านั้นเอง

ด้วยความที่เราเดินทางมาถึงร้านช่วงบ่ายของวันพฤหัส ผนวกกับบรรยากาศและความน่ารักของน้องแมวสะกดไว้ด้วยหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ ทำให้อาหารที่เราสั่งไว้ถูกนำมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่อึดใจ เพราะตามปกติแล้วร้านนี้จะมีคนทยอยมาทานเยอะมากโดยเฉพาะตอนเย็นและวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ทำให้บ่อยครั้งเจ้าของกิจการจึงต้องออกมาบริการด้วยตัวเอง พร้อมแนะนำเมนูอาหารและมุมมองสวยๆ ที่สามารถมองเห็นได้จากตรงนี้อย่างเป็นกันเอง

เมื่ออาหารมาเสิร์ฟจนครบแล้ว เด็กๆ ที่มากันเราก็ดูตื่นเต้นอย่างมากเหมือนคนสมาธิสั้น ไม่รู้จะมองวิวหรือกินอาหารที่อยู่ตรงหน้าก่อนดี คุมะจังเลยตัดปัญหาโดยการยกกล้องขึ้นมา วิญญาณการเป็นนางแบบก็เข้าสิงพวกนางทันที ฮ่าๆๆๆ

เมนูแรกที่เราจะพูดถึงในวันนี้ ส้มตำเห็ดทอด ซึ่งเป็นการนำเห็ดนางฟ้าไปทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟคู่กับส้มตำที่มีรสเปรี้ยวหวานนำ ตัดด้วยรสเผ็ดหน่อยๆ อร่อยเคี้ยวเพลินจนลืมทานข้าวไปเลย แถมรสชาติก็กลางๆ คนกรุงเทพฯ สามารถทานได้สบายๆ เลยค่ะ

ส่วนเมนูอาหารชามพูนๆ ที่อยู่ตรงหน้าเราตรงนี้ก็คือ เต้าหู้ภูเขาบ้านไร่ กัดเข้าไปจะรู้สึกถึงความกรอบบางที่ห่อหุ้มเต้าหู้ไข่เนื้อเนียนนุ่มร้อนๆ อยู่ภายใน เคลือบด้วยซอสหวานๆ กินแกล้มกับใบกระเพราทอดกรอบที่โรยอยู่ด้านบน เป็นการนำตู้หู้ไข่มาปรุงอาหารได้อร่อยมากอีกเมนูหนึ่งที่ต้องเก็บไว้ในลิสต์เลย

ส่วนสเต็กหน้าตาจืดๆ เหมือนเด็กปี 1 ที่ไม่มีพิษมีภัยคนนี้เขามีชื่อว่า สเต็กหมูลาว ซึ่งถ้าจะได้พูดตรงๆ คือหน้าตาก็งั้นๆ แต่รสชาตินี่สู้ตายมาก!!! คำแรกที่เข้าปากคือเหมือนถูกฟาดด้วยกลิ่นเครื่องเทศ ชีสและนมหอมๆ ประเดประดังเข้ามาแบบเต็มปากเต็มคำจนต้องไปกองแน่นิ่งอยู่บนพื้น สมกับเป็นเมนูซิกเนอเจอร์ของร้านนี้อย่างแท้ทรู

แต่ใครล่ะจะสู้ ปีกไก่บ้านไร่ ได้! เพราะนอกจากหน้าตาดีให้ระดับที่สามารถเป็นหน้าเป็นตาให้กับทางร้านได้แล้ว ยังมีรสชาติอร่อยกลมกล่อมอีกต่างหาก มองเผินๆ อาจเหมือนปีกไก่ชิ้นใหญ่คำโต แต่กัดเข้าไปจะพบว่ามันเป็นไก่ยัดไส้ที่นำไปชุบแป้งทอดจนได้ทรงสวย เนื้อก็เกาะกันดี ทานง่าย แถมอร่อมกลมกล่อมด้วย

อีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงเลยก็คือ ปลาทับทิมบ้านไร่ ราดด้วยน้ำซอสสูตรพิเศษ ก่อนจะโรยหน้าด้วยตะไคร้ หอม กระเทียม มะนาว หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ คลุกเคล้ากับพริกสด และเม็ดมะม่วงหิมะพาน ทานร่วมกันได้รสชาติที่ครบรสทั้งเปรี้ยวหวานมันเค็มคลุกเคล้าอยู่ในปาก

ก่อนที่จะมาต่อกันด้วย ต้มโคล้งผักหวานป่าปลาย่าง ร้อนๆ หอมอร่อยๆ มีแรงฝุดๆ ด้วยกลิ่นหอมของปลาย่างและเครื่องเทศ ผสานเข้ากับรสชาติอันเข้มข้นซึ่งเข้ากันได้อย่างลงตัว ทานคู่กับผักหวานที่ใส่มาแบบเต็มแม็คก็สนุกสนานเพลิดเพลิน (กับการคุ้ยหา) ไปอีกแบบเหมือนกัน

แต่สำหรับใครที่ตั้งใจจะมาจิบเบียร์นอกพร้อมชมวิวทิวทัศน์แบบชิลล์ๆ แล้วล่ะก็ ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่กรอบอร่อย เคี้ยวมันส์ ได้รสเค็มนิดๆ น่าสั่งมาทานคู่กับแกล้มอื่นๆ ก็นั่งเม้าท์มอยกันได้ยาวๆ ทั้งคืนจนร้านปิดเลยค่ะ

 

โดยรวมแล้ว “บ้านไร่ปลายเนิน” ถือเป็นหนึ่งจุดหมายปลายทางของใครหลายๆ คน ที่หากได้เคยมาซักครั้งหนึ่งแล้วก็ต้องติดใจกลับมาทานอีกอย่างแน่นอน ด้วยรสชาติอาหารที่ถูกปาก ผสมเข้ากับวิวทิวทิศน์ที่สวยงาม ในราคาที่คุ้มค่าสมราคา แถมเจ้าของร้านก็อัธยาศัยดีและเป็นกันเองสุดๆ จะถ่ายรูปอัพลงบนโซเชียลอวดเพื่อนๆ ทางร้านก็มี Wi-Fi ฟรีคอยให้บริการ ห้องน้ำห้องท่าก็กว้างขวางสะอาดหมดจด เหมาะสำหรับนักเดินทางที่สัญจรผ่านไปผ่านมาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

แม้การเดินทางในช่วงหน้าฝนจะค่อนข้างลำบาก และต้องใช้ความระมัดระวังค่อนข้างสูง แต่โชคดีที่เราได้น้องแดง MAZDA CX-3 มาเป็นเพื่อนร่วมทางกับเราในครั้งนี้ ด้วยเทคโนโลยี Skyactive ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างมากในแวดวงยานยนต์โลก

จึงถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่เราจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยี Skyactive ขึ้นชื่อว่าเป็นเทคโนโลยีที่ประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์แรงขับสนุก ช่วงล่างหนึบ เกียร์และบอดี้น้ำหนักเบา ที่สำคัญดีไซน์โฉบเฉียบ พร้อมพาเราเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในสถานที่ต่างๆ อีกมากมาย ต้องขอขอบคุณ “มาสด้าราชา” ที่ให้การสนับสนุนการเดินทางมา ณ โอกาสนี้ด้วยนะคะ

แล้วครั้งหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหน
อย่าลืมติดตามได้ที่แฟนเพจ Korat : เมืองที่คุณสร้างได้นะคะ ^^


Comments are closed.

Check Also

แกรนด์โอเพ็นนิ่ง “โคเอ็น” แบรนด์ดังร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นปิ้งย่าง-ชาบู-ซูชิ ผงาดเจาะตลาดอีสาน ประเดิมโคราชแห่งแรก!

ดีเดย์ แกรนด์โอเพ็นนิ่งสุดยิ่งใหญ่ KOUEN PREMIUM BUFFET … …