นับว่าเป็นความโชคดีที่เมืองโคราชมีความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ ทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งต่างมุ่งตรงมายังโคราชเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้แก่คนที่สัญจรผ่านไปมา กลายเป็นแม่เหล็กที่ช่วยดึงดูดนักลงทุนจากภาคเอกชนต่างนำเม็ดเงินมาลงทุนสร้างเมกะโปรเจกต์ ช่วยให้ภาพรวมทางด้านเศรษฐกิจในโคราชมาความคึกคักมากยิ่งขึ้น เมื่อเราได้มีโอกาสได้อ่านบทสัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟอย่างเป็นกันเองของ รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งปัจจุบันนั่งเก้าอี้ CEO บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ที่เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาเมืองโคราช ในฐานะที่ท่านเคยดูแลการคมนาคมของประเทศ ให้แก่นิตยสารหอการค้าฯ เราจึงนำบทสัมภาษณ์นี้มาฝากคุณผู้อ่านทุกท่านเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาโคราชบ้านเราให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป เรามาดูกันว่าเขามีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง การคมนาคมขนส่งของโคราชในปัจจุบันและอนาคต โคราชในปัจจุบันมีเส้นทางสายหลักคือทางหลวงหมายเลข 2 หรือถนนมิตรภาพ อนาคตจะมีโครงการเข้ามาหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการมอเตอร์เวย์ รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ การจัดการภายในของเมืองโคราช เพราะเมื่อก่อนในการเดินทางจะเดินทางมาตามถนนทางหลวงหมายเลข 2 ซึ่งจะค่อยๆ ทยอยกันมา แต่หากเดินทางโดยถนนมอเตอร์เวย์เดิมเคยใช้เวลา 4-5 ชั่วโมงก็จะเหลือเพียง 2 ชั่วโมง ในอนาคตถามว่าถ้ามาถึงโคราชแล้ว จะมีการบริหารจัดการ หรือมีการกระจายผู้เดินทางอย่างไร การจราจรในเมือง การขนส่งในเมือง เราจะต้องมาดูว่าเป็นอย่างไร จะบริหารจัดการเพื่อรองรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นนี้ได้อย่างไรบ้าง Credit : ska@Picasa.com โมเดลในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในอนาคต โมเดลแรกที่มองไว้สำหรับโคราชหลังจากระบบคมนาคมเข้ามาถึงทั้งหมดระบบแรกที่ต้องเกิดขึ้น คือ Feeder (ฟีดเดอร์) เมื่อมีการขนส่งตัวหลักๆ มาลงฟีดเดอร์ที่จะเป็นตัวกระจายออกไป อาจจะเป็นเรื่องดี แต่หัวใจสำคัญ คือ การให้คนเดิน เพราะจริงๆ แล้วการเดินเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด อาจเป็นระยะหรือเป็นช่วงๆ ก็ต้องมีการปรับฟุตปาธทางเดินให้ดี มีทางเดินที่เป็นร่มให้เดิน อาจจะมีรถเมล์เป็นจุดระยะห่าง 1 กิโลเมตร ระหว่างสถานี ส่วนระยะห่าง 500 เมตร ให้จัดไว้สำหรับคนเดิน ทางภาครัฐและภาคเอกชนจะต้องประสานกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทางเดิน หรือ รถเมล์ลอยฟ้า อย่าคิดโมเดลที่แพงมากเพราะจะเป็นไปได้ยาก ควรจะเริ่มจากโมเดลที่ไม่แพงก่อน Credit : กองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง กรมทางหลวง การรับมือกับเมกะโปรเจกต์ที่จะเข้ามาในโคราช ตามหลักแล้วจะต้องคุยกับภาครัฐว่า จะร่วมกันสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างไร อย่ารอให้โครงการมาถึงแล้วค่อยคุยเพราะอาจจะสายเกินไป เพราะฉะนั้นเราจะต้องเข้าไปมีส่วนร่วม เช่น มอเตอร์เวย์ที่กำลังเข้ามา จะเป็นอย่างไร จะมีกิจกรรมอะไรที่จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับจังหวัดได้ อย่างกรณีการนั่งรถมาโคราช ถ้าสังเกตุดูจะมีพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่กลางดง แต่ถ้ามีมอเตอร์เวย์เข้ามา เขาจะขายของได้อย่างไร จะเข้าไปอยู่ในพื้นที่มอเตอร์เวย์ผ่านได้หรือไม่ จึงต้องคุยกันก่อน เพราะการสร้างมูลค่าเพิ่มจะต้องเกิดจากเอกชน รัฐเป็นผู้ให้เครื่องมือ ให้การคมนาคม แต่สิ่งที่จะสร้างและกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆ คือ เอกชน โคราชมีโอกาสดีเข้ามาแล้ว เพราะฉะนั้นบทบาทก็คือเอกชนจะต้องเข้าไปมีส่วนร่วม จะต้องเริ่มตั้งแต่ต้น ถือเป็นหัวใจในการพัฒนาเศรษฐกิจด้วย Credit : THINK OF LIVING ระดับของเมืองโคราชกับเมกะโปรเจกต์ในอนาคตที่พร้อมและลงตัว โคราชถือเป็นเมืองระดับมหานคร มีพื้นที่มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ประชากรที่หนาแน่น พูดถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่วนกลางและท้องถิ่นต้องเร่งปรับตัว อสังหาริมทรัพย์ไม่ได้เป็นสิ่งที่สร้างความต้องการโดยตรง ผู้ประกอบการจะต้องมีกิจกรรมหรือมีธุรกิจชนิดอื่นที่สร้างอุปสงค์ให้เพิ่มขึ้นมา แล้วอสังหาริมทรัพย์จะเป็นปลายน้ำ เช่น เมื่อมีโรงงาน ก็จะมีคนมาทำงานก็จะมีคนซื้ออสังหาริมทรัพย์ พอมีสถานศึกษา มีนักเรียนมาเรียน ก็จะมีคนมาเช่นห้องเช่าอสังหาฯ มีการท่องเที่ยวก็จะมีคนมาเช่าโรงแรม สิ่งสำคัญคือโคราชต้องวางแผนระยะยาวให้ดี ว่าเราจะไปในทิศทางไหน คมนาคมหรืออสังหาริมทรัพย์จะเป็นแค่ปลายน้ำ ถามว่าเราอยากจะเป็นอะไร เราอยากจะเป็นเมืองศูนย์กลางทางการศึกษา เราอยากศูนย์กลางการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมจะเป็นแนวไหน อุตสาหกรรมไหนที่จะประสบความสำเร็จ อุตสาหกรรมไหนที่จะเป็นอนาคต เราจะต้องวางแผนไว้ แล้วนำมาบูรณาการ โคราชมีแหล่งท่องเที่ยว มีสถานศึกษาระดับชั้นนำ และมีการเกษตรที่ดี แต่ยังขาดแผนรวม การท่องเที่ยวยังกระจายกันอยู่ ทำไมไม่ทำคลัสเตอร์ให้เข้มแข็ง ขึ้นไปบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี มาจบที่โคราช Credit : world base 9 ส่วนภาคอุตสาหกรรมถ้าถามว่าอุตสาหกรรมอะไรที่จะเป็นอุตสาหกรรมเด่นของเราในอนาคต โซนไหนจะเป็นเขตอุตสาหกรรม กำหนดให้เกิดความชัดเจน อีกทั้งการเดินทางส่งสินค้าอุตสาหกรรมจากโคราชไปแหลมฉบังไม่ไกลกันมาก ความเข้มแข็งของโคราชไม่ต่างจากระยอง และชลบุรี อนาคตการคมนาคมจะดีขึ้น การเดินทางจะสะดวกสบายมากขึ้น กุญแจสำคัญของโคราชคือ บุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นแหล่งงานที่อยู่ใกล้กันมาก ไม่ต้องไปหางานถึงชลบุรี หรือระยอง แต่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน ภาครัฐจะเป็นผู้ที่ให้ความสะดวก แต่ภาคเอกชนจะต้องเป็นผู้กำหนดทิศทาง เราจะต้องหาว่าอะไรคือ New S-curve หรือ รูปแบบของการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อเปลี่ยนรูปแบบสินค้าและเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การศึกษา อุตสาหกรรม ด้านพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ที่กำลังมาแรง โคราชสามารถกระจายไปได้ทั้งภูมิภาค เราต้องกำหนดว่าเราอยากเป็นอะไร เราจะไปทางไหน เพราะเราเป็นทุกอย่างไม่ได้ ต้องโฟกัส ต้องมีวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน และอนาคตโคราชควรต้องมีนิคมอุตสาหกรรมด้วย เพราะมีทั้งแรงงานและทรัพยากรธรรมชาติที่รองรับอยู่แล้ว Credit : PANYA KUANUN (ShutterStock) อุปสรรคในการเจริญเติบโตของโคราช ผมมองว่าแผนและยุทธศาสตร์ที่ยังมองไม่เห็นว่าเราอยากเป็นอะไร เราจะทำงานร่วมกันอย่างไร ต้องคิดให้ถี่ถ้วน ต้องดูอนาคต ต้องหา S-curve ให้ได้ ต้องกำหนดทิศทางให้ชัดเจน ต้องมีองค์กรใดองค์กรหนึ่งเป็นศูนย์กลาง แล้วร่วมกันทำ ร่วมกันขับเคลื่อน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ส่วนการคมนาคมทางอากาศ โคราชมีสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่อยู่แล้ว แต่คนมองว่าโคราชอยู่ใกล้กรุงเทพฯ เกินไปจึงไม่สำเร็จ เราต้องมองอนาคตข้างหน้า โคราช-เชียงใหม่, โคราช-ภูเก็ต ก็เป็นเส้นทางที่สามารถผลักดันได้ แต่ที่สำคัญที่สุดจะต้องพัฒนาจังหวัดในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยวให้ได้ก่อน ว่าจะให้นักท่องเที่ยวมาโคราชเพื่ออะไร จะต้องมีเรื่องราว สร้างจุดขายของจังหวัดให้ได้ แล้วนักท่องเที่ยวหรือนักเดินทางจะบินมาลงที่โคราชเอง อย่างเช่น อู่ตะเภา ที่ใช้วิธีเจาะเป็นเมืองๆ ทำการตลาดให้เป็นเมืองๆ ดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวพัทยาได้เป็นจำนวนมาก โคราชไม่ต้องลงทุนเรื่องสนามบิน เพราะมีสนามบินอยู่แล้ว ก็สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ Credit : G-Next Cinematography ฝากถึงคนโคราชกับอนาคตในอีก 20 ปีข้างหน้า ผมคิดว่าโคราชมีศักยภาพ มีครบทุกอย่าง ตอนนี้โครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมหลายโครงการกำลังจะมาลงที่โคราช ผู้ที่จะเดินทางมายังภาคอีสานก็ต้องผ่านโคราชก่อน ภาคเอกชนจะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมกับภาครัฐ โคราชอาจจะเปรียบได้กับเมืองหลวงของภาคอีสาน แต่ต้องไปให้ถูกทาง แต่อย่าคิดว่าจะโต เพราะอาจจะไม่โตก็เป็นได้ถ้าไม่ทำให้ดี อนาคตเราเป็นคนเขียน ถามว่าอะไรสำคัญที่สุดสำหรับคนรุ่นใหม่ นั่นคือการมองอนาคตให้ออก แหล่งข้อมูล : นิตยสารหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ฉบับวันที่ 9 กรกฎาคม 2559
