สุดสัปดาห์นี้ Sushi Toro ส่งสาส์นท้าประลองไปยังนักกินจุทั่วยุทธภพจรดแดนดินถิ่นหญิงกล้า พิชิตเมนูข้าวปั้นคำใหญ่ เนื้อเน้นๆ ซึ่งมีนามว่า “ซูชิ พิระมิด” หรือ “ซูชิ โทโระ พิระมิด” จำนวนทั้งสิ้น 30 คำ ภายในเวลา 15 นาที ถ้าทำได้ให้ทานฟรีไปเลย! พร้อมรับ Gift Voucher มูลค่า 500 บาท มาทานครั้งต่อไปได้อีกด้วย! ได้ยินอย่างนี้แล้วก็หวานคุมะจังสิคะ ว่าแต่เจ้า “ซูชิ โทโระ พิระมิด” จะหน้าตาเป็นอย่างไร ตามคุมะจังมาเลยค่ะ!!

ตอนนี้เราเดินทางมาถึง Sushi Toro สาขาเทอร์มินอล 21 โคราชแล้วนะคะ สำหรับคนที่ยังไม่เคยมา เส้นทางมาร้านที่สะดวกที่สุดคือขึ้นบันไดเลื่อนใหญ่จากชั้น G ปารีส มาโผล่ที่ชั้น 3 โตเกียว ก่อนที่จะขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ข้างๆ กันนั้นมาที่ชั้น 4 ซานฟรานซิสโก จะเห็นร้าน Sushi Toro อยู่ทางขวามือกลางทางเดิน ซึ่งตกแต่งร้านอย่างเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่นและเปิดโล่งแบบ 360 องศากันไปเลย  

เมื่อเลือกมุมสวยๆ นั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุมะจังก็ไม่รอช้า ยกมือขึ้นแล้วสั่ง “ซูชิ โทโระ พิระมิด” ทันทีเลยค่ะ ด้วยความมั่นอกมั่นใจและความหิวโหยที่พกมาอย่างเต็มพิกัด ว่าแล้ว…แอบมาดูหลังครัวกันดีกว่าค่ะว่าพิระมิดของคุมะจังจะผ่านอ่าวไทยมารึยังน้า~

ดูสิๆๆ เซฟกำลังตกแต่งอาหารอย่างพิถีพิถันเลย ไม่นานเกินรอ…พิระมิดของเราก็ถูกเสิร์ฟพร้อมกับดรายไอซ์อย่างยิ่งใหญ่อลังการพร้อมกับนาฬิกาจับเวลา พิระมิดของเขาจะมีทั้งหมด 4 ชั้น แต่ละชั้นก็จะเต็มไปด้วยซูชิหน้าต่างๆ ของทางร้านแบบขนาดปกติที่ใส่ให้แบบไม่มีกั๊ก

ซึ่งเอาเข้าจริงๆ แล้ว แต่ละชิ้นจะมีขนาดใหญ่มากกกกก…ถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มสีสันในการทานอาหารได้เป็นอย่างดีเลย ใครกินทันต้องยอมรับเลยว่ามีระบบขากรรไกรที่ทรงพลังจริงๆ ล่าสุด! ได้ข่าวจากทางเพจว่า สิ้นเดือนนี้จะรวมผู้ชนะมาแข่งขันเพื่อเฟ้นหา “แชมป์ ออฟ เดอะ แชมป์” ที่สามารถทาน “ซูชิ โทโระ พิระมิด” ได้หมดโดยใช้เวลาที่น้อยที่สุดเพื่อชิงของรางวัลอีกด้วย รีบมากันเยอะๆ นะคะ

นอกจากนี้ ทางร้านยังมีบุฟเฟ่ต์มาให้บริการชาวโคราชที่ชอบความคุ้มค่าในราคา 599 บาท อีกด้วย ซึ่งราคานี้ต้องบอกเลยว่ารวมหมดทุกอย่างทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ไม่มี Service Chart ไม่มี VAT ใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนเด็กๆ อยู่ที่ราคา 299 บาท สำหรับผู้ที่มีความสูงไม่ถึง 100 ซม. ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถทานได้ฟรีเลยค่ะ แถมปริมาณยังอัดแน่นเท่าเดิมอีกต่างหาก

เพราะร้าน Sushi Toro เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบฟิวชั่นที่เน้นบริการลูกค้าด้วยวัตถุดิบคุณภาพดีและสดใหม่ ในราคาที่เข้าถึงง่าย แม้ภายนอกราคาอาจจะดูค่อนข้างแพง แต่อยากให้ทุกคนลองมาสัมผัสดูก่อน แล้วจะรู้ว่าไม่แพงอย่างที่คิด เมื่อเทียบกับคุณภาพและปริมาณที่ได้รับถือว่าคุ้มค่ามากจริงๆ

เมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่เลยก็คือ แซลมอนซูชิบันไดสู่สวรรค์ ซึ่งเป็นการแล่เนื้อปลาแซลมอนให้เป็นชิ้นยาวมาย่างไฟให้เนื้อปลามีความกึ่งสุกกึ่งดิบให้รสชาติหวานมัน โรยหน้าด้วยไข่กุ้ง ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ จนได้รสชาติอร่อยกลมกล่อมเต็มปากเต็มคำคลุกเคล้ากับเนื้อปลาที่นุ่มละมุน ยิ่งกินยิ่งฟินเหมือนกำลังค่อยๆ ย่างก้าวขึ้นไปสู่สวรรค์เลยค่ะ

อีกหนึ่งเมนูซึ่งเป็นที่โปรดปรานของหลายๆ คน โดยเฉพาะคออาหารญี่ปุ่นเลยก็คือ หัวปลาแซลมอนนึ่งซีอิ้ว เมนูง่ายๆ ที่มีพลังทำลายล้างสูงมาก ทันทีที่ตักเข้าปากจะรู้สึกได้ถึงน้ำซีอิ้วที่แทรกซึมในทุกๆ อณูของเนื้อปลาที่เนียนนุ่มจนแทบละลายในปาก ยิ่งทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใครเชียว

ส่วนใครอยากได้ซูชิที่มีงูออกมา Sushi Toro เขาก็จัดให้! ด้วย ดราก้อนโรล ซูชิห่อไส้กุ้งเท็มปุระราดซอสสูตรพิเศษให้รสชาติเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ครบหมดในจบเดียว นำมาจัดเรียงบนถาดไม้เป็นรูปมังกรแหวกว่ายอย่างสวยงามและพิถีพิถันสุดๆ

แต่ถ้าถามว่าเมนูไหนจิ๋วแต่แจ๋ว คุมะจังยกให้ แซลมอนไข่ปลาแซลมอนกุงกัง ซึ่งนำข้าวมาปั้นจนแน่นและพันด้วยแซลมอน ก่อนที่จะโรยด้วยไข่ปลาแซลมอนสีส้มอวบอิ่มจนทะลักออกมา ได้สัมผัสกรุบๆ แตกในปากเป็นรสเค็มๆ เข้ากับเนื้อปลาและข้าวปั้นได้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเพิ่มเลย

นอกจากนี้ยังมี อาบูริ ซูชิ เซ็ต หรือ ชุดย่างไฟ ประกอบด้วยครีบปลาตาเดียวย่า แซลมอนย่าง และปลาทูน่าย่าง แท็คทีมมากับ เอ็นงาวะย่างและตับห่านย่าง ก็เป็นอีกสองเมนูที่แนะนำสำหรับใครที่อยากลิ้มรสเนื้อปลาประเภทอื่นๆ ดูบ้าง สองเมนูนี้ก็จะให้รสชาติหวาน มัน เค็ม อร่อยไปอีกแบบเหมือนกัน

แต่ถ้าใครทานซูชิเยอะจนเริ่มเลี่ยนแล้วลองสั่ง แซลมอลซาชิมิ คำโตมาทานดูค่ะ ทานคู่กับวาซาบิหรือน้ำยำแซลมอนยิ่งแซ่บบบบ~ สุดติ่งกระดิ่งแมว แต่น้ำยำนี่คุมะจังขอเขาเพิ่มนะ (ทางร้านไม่ได้เอามาเสิร์ฟให้) ใครอยากฟินแบบคุมะจังก็ลองได้นะคะ ช่วยตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดีเลย

สำหรับบุฟเฟ่ต์ 599 บาท มีเมนูอะไรน่าสนใจบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

บรรยายกาศที่ร้านต้องจัดว่าโปร่งโล่งสบายเลยค่ะ ยิ่งตกเย็นหลังเลิกงานภายในร้านก็จะมีลูกค้าทั้งเจ้าประจำและขาจรแวะเวียนกันเข้ามาจับจองพื้นที่ภายในร้านกันอย่างเนืองแน่นตลอดทั้งสัปดาห์ มีทั้งแบบอาลาคาร์ท บุฟเฟ่ต์ และท้ากิน ให้เลือกได้ตามความต้องการ เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว สุดท้ายนี้ คุมะจังขอฝากร้าน Sushi Toro ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ #มีเพื่อนท้าเพื่อน #มีแฟนท้าแฟน สำหรับวันนี้คุมะจังต้องขอกลิ้งกลับบ้านก่อนล่ะค่ะ บ๊ายบายยยย~

 


Comments are closed.

Check Also

แกรนด์โอเพ็นนิ่ง “โคเอ็น” แบรนด์ดังร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นปิ้งย่าง-ชาบู-ซูชิ ผงาดเจาะตลาดอีสาน ประเดิมโคราชแห่งแรก!

ดีเดย์ แกรนด์โอเพ็นนิ่งสุดยิ่งใหญ่ KOUEN PREMIUM BUFFET … …