นับเป็นข่าวดีที่ “ปรากฏการณ์เอลนีโญ” กำลังจะสิ้นสุดลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 แน่นอนว่าปัญหาการขาดแคลนน้ำในหลายภูมิภาค รวมทั้งผลกระทบที่เกิดขึ้นกับภาคเกษตรจะค่อยๆ ทุเลาความรุนแรงลงไปด้วย ทว่า ช่วงครึ่งปีหลังประเทศไทยจะเข้าสู่ปรากฏการณ์ “ลานีญา” เต็มรูปแบบ นั่นหมายความว่ามีแนวโน้มสูงที่จะต้องเผชิญกับฝนตกหนักรุนแรงได้

 

02วันนี้รถไม่ติด Screen Shot 2016-04-17 at 3.58.35 PMCredit : Jugkapun Rakmit (ภาพที่ 1), chaoprayanews.com (ภาพที่ 2) และ theatlantic.com (ภาพที่ 3)

 

ปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” เสมือนเป็นคู่ตรงข้ามของปรากฏการณ์ “ลานีญา” โดยเอลนีโญจะทำให้อุณหภูมิของผิวมหาสมุทรแปซิฟิคบริเวณเส้นศูนย์สูตรร้อนขึ้น ทำให้พื้นที่หนึ่งเกิดภัยแล้งหนัก ขณะที่ลานีญาจะทำให้เย็นลง ทำให้พื้นที่นั้นเกิดภัยน้ำท่วมจากฝนตกหนักได้ เช่นเดียวกับวิกฤติอุทกภัยเมื่อปี 2554 อันมีปรากฏการณ์ลานีญาเป็นส่วนสำคัญในการทำให้ฝนตกหนักและยาวนานผิดปกติ น้ำจึงไหลบ่าทางจังหวัดภาคเหนือ ก่อนที่มวลน้ำจะไหลท่วมขังในกรุงเทพ (กทม.) เป็นเวลาหลายสัปดาห์ สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจมากกว่า 1.425 แสนล้านบาท สายพานการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งยานยนต์และอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคที่มีฐานการผลิตในประเทศไทยได้รับความเสียหายข้ามปี

 

Thairath_819201265318PM

Credit : ไทยรัฐออนไลน์

 

ในขณะที่ภัยแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญในปี 2558 ก็ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันไม่ว่าจะเป็น ข้าว ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพด ทำให้จีดีพีประเทศไทยในปีที่แล้วไม่เติบโตนัก เมื่อมองทั้ง 2 เหตุการณ์ของสภาพอากาศที่ต่างสุดขั้ว จะพบว่าการบริหารจัดการดูจะเป็นปัญหาหลักพอๆ กับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นก็ว่าได้ จึงเป็นที่น่าจับตาว่าในปีนี้ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการรับมือกับปรากฏการณ์ลานีญาอย่างไร

 
13006555_10154742114967786_2936439258655673928_n

 

ในเมื่อการพยากรณ์ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญานั้นสามารถทำได้กันข้ามปี โดยมีองค์กรนานาประเทศที่ได้รับความเชื่อถือสูงเผยแพร่ข่าวสารการพยากรณ์เป็นประจำ เช่น National Oceanic and Atmospheric Administration ของประเทศสหรัฐอเมริกาหรือที่รู้จักกันในนาม “โนอา” และ Australian Bureau of Meteorology ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งปรากฏการณ์ลานีญาที่จะเกิดในกลางปี 2559 นี้ มีการเผยแพร่ข่าวสารการพยากรณ์ตั้งแต่ปีที่แล้ว

 

ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาจึงเป็นเครื่องย้ำเตือนอย่างดีให้ทุกภาคส่วนของประเทศไทยต้องตื่นตัวกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะเมื่อประมาณ 40% ของประชากรทั้งหมดเป็นเกษตรกร (ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการเกษตร) ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ จึงอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนและเศรษฐกิจในวงกว้าง ซ้ำยังทำให้ปัญหาความยากจนเลวร้ายขึ้นจากการสูญเสียผลผลิตทางการเกษตร ประเทศไทยเองก็ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ให้มากขึ้น ยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีด้านการพยากรณ์ภูมิอากาศก้าวหน้าเช่นนี้ การเตรียมรับมือยิ่งเป็นไปได้มากขึ้นอยู่ที่ว่าจะให้ความสนใจหรือไม่เท่านั้น

 

แหล่งข้อมูล : greennewstv.com

 


Comments are closed.

Check Also

แกรนด์โอเพ็นนิ่ง “โคเอ็น” แบรนด์ดังร้านบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นปิ้งย่าง-ชาบู-ซูชิ ผงาดเจาะตลาดอีสาน ประเดิมโคราชแห่งแรก!

ดีเดย์ แกรนด์โอเพ็นนิ่งสุดยิ่งใหญ่ KOUEN PREMIUM BUFFET … …